ก่อนวางตลาด  ณ เซอร์โรเมท เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย

‘บีเอฟกู๊ดริช’ จัดกิจกรรมสุดพิเศษให้แขกรับเชิญได้สัมผัสและพิสูจน์ประสิทธิภาพของยาง ‘บีเอฟกู๊ดริช ออลเทอร์เรน  ที/เอ เคโอ3’ (BFGoodrich All-Terrain T/A KO3) ก่อนวางตลาดทั่วภาคพื้นเอเชียตะวันออกและออสเตรเลียในเดือนกันยายนศกนี้  กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้น ณ เซอร์โรเมท (Sirromet)…แหล่งปลูกองุ่นและผลิตไวน์ ตลอดจนจัดกิจกรรมนานาประเภท ที่เต็มไปด้วยเส้นทางขับขี่สุดท้าทายหลายรูปแบบท่ามกลางวิวทิวทัศน์ที่งดงาม…ในเมืองบริสเบน (Brisbane) ประเทศออสเตรเลีย

กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-17 กรกฎาคม 2567  โดยแขกรับเชิญซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจำหน่ายยางรถยนต์ สื่อมวลชน และอินฟลูเอนเซอร์ มากกว่า 200 คน จาก 8 ประเทศ (ได้แก่ ออสเตรเลีย, กัมพูชา, อินโดนีเซีย, ญี่ปุ่น, เกาหลี, มาเลเซีย, ประเทศไทย และเวียดนาม) จะเป็นคนกลุ่มแรกในภาคพื้นเอเชียตะวันออกและออสเตรเลีย ที่ได้สัมผัสประสิทธิภาพอันโดดเด่น 3 ด้าน (ความแกร่งทรหด, การยึดเกาะถนน และความทนต่อการสึกหรอ) ของยาง ‘บีเอฟกู๊ดริช ออลเทอร์เรน  ที/เอ เคโอ3’ ก่อนใคร

‘บีเอฟกู๊ดริช ออลเทอร์เรน  ที/เอ เคโอ3’ เปิดตัวหลังยางรุ่นก่อนหน้าถึงเกือบ 10 ปี โดยมาพร้อมเทคโนโลยีล่าสุดที่ช่วยเสริมสมรรถนะระดับตำนานให้ดียิ่งขึ้นใน 3 ด้านหลัก จนเป็นที่มาของสโลแกน “ความแกร่งระดับตำนาน…ที่ทนทานยิ่งขึ้น” (Legendary Toughness. Made Tougher.) ได้แก่ ความแกร่งทรหด แก้มยางแข็งแกร่งทนทานเป็นเยี่ยมด้วยเทคโนโลยี CoreGard และดีไซน์ไหล่ยางแบบ Advanced Deflection Design ที่ช่วยเบี่ยงหลบกิ่งไม้และคมหินเพื่อป้องกันแก้มยางปริหรือฉีกขาดจากการถูกทิ่มตำ, การยึดเกาะถนน ไหล่ยางแบบหยักและสันสลัดโคลนช่วยเสริมสมรรถนะในการเกาะตะกุยเส้นทางดินโคลน และความทนต่อการสึกหรอ สูตรเนื้อยางออลเทอร์เรน ใหม่ได้รับการพัฒนาให้มีความทนทานและอายุใช้งานยาวนาน…แม้เมื่อขับขี่บนเส้นทางลูกรัง ทั้งยังออกแบบให้มีร่องบาก 3 มิติ เต็มความหนาหน้ายางแบบล็อคกันไว้ (Full-Depth Locking 3D Sipes) เพื่อให้ยางสึกสม่ำเสมอเมื่อใช้งานขับขี่ระยะไกล  

สำหรับรูปแบบของกิจกรรมแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ พื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ และ กิจกรรมเชิงปฏิบัติการ 3 ฐาน  โดยพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์บีเอฟกู๊ดริชที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 150 ปี ทั้งยังจัดแสดงผลิตภัณฑ์ยาง ‘บีเอฟกู๊ดริช ออลเทอร์เรน  ที/เอ เคโอ3’ ร่วมกับยางบีเอฟกู๊ดริชประเภทออฟโรดอื่น ๆ อาทิ ‘บีเอฟกู๊ดริช เอชดี เทอร์เรน’ (BFGoodrich HD Terrain) ยางสมรรถนะสูงพิเศษสำหรับการใช้งานสุดหฤโหด, ‘บีเอฟกู๊ดริช มัด-เทอร์เรน ที/เอ เคเอ็ม3’ (BFGoodrich Mud-Terrain T/A KM3) ยางที่ลุยได้ทุกสภาพเส้นทางหฤโหดสำหรับชาวออฟโรดตัวจริง และ ‘บีเอฟกู๊ดริช เทรล-เทอร์เรน ที/เอ’ (BFGoodrich Trail-Terrain T/A) ยางทุกฤดูกาลที่ให้สมรรถนะเหนือกว่าบนทางเรียบและรองรับการขับขี่ออฟโรดที่ไม่สมบุกสมบันมากนัก

ไฮไลต์พิเศษคือประสบการณ์ขับขี่ทั้งบนทางเรียบและออฟโรดกับยาง ‘บีเอฟกู๊ดริช ออลเทอร์เรน  ที/เอ เคโอ3’ ในกิจกรรมเชิงปฏิบัติการ 3 ฐาน ได้แก่ ฐาน Toughness Built to Overcome ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วม 2 ราย พร้อมผู้ฝึกอบรม ร่วมขับรถทดสอบสมรรถนะยางไปบนเส้นทางออฟโรดสุดท้าทายหลายรูปแบบ ทั้งเนินหิน ร่องน้ำ พื้นกรวด และเนินเอียงลื่น, ฐาน Traction & Treadwear ที่เป็นเสมือนห้องปฏิบัติการทดสอบความทนทานและประสิทธิภาพยางในด้านการเบรกบนเส้นทางลุยฝุ่น การเร่งความเร็วบนเส้นทางดินโคลน และความทนต่อการสึกหรอ และฐานสุดท้าย All-Terrain On-Road & Off-Road ที่ให้ผู้เข้าร่วมได้ทดลองขับขี่บนถนนสาธารณะเพื่อพิสูจน์ศักยภาพยางในเรื่องเสียงรบกวนที่ลดลง ตลอดจนการควบคุมรถและการบังคับเลี้ยวที่เป็นเยี่ยม รวมทั้งขับบนเส้นทางออฟโรดที่อ่อนนุ่มเพื่อสัมผัสประสิทธิภาพการขับเคลื่อนบนพื้นดินอ่อนนุ่ม การขับข้ามน้ำ และการขับลุยเส้นทางขรุขระ

อนึ่ง ในกิจกรรมเชิงปฏิบัติการทั้ง 3 ฐาน ยาง ‘บีเอฟกู๊ดริช ออลเทอร์เรน  ที/เอ เคโอ3’ ซึ่งออกแบบขึ้นเพื่อใช้งานกับรถซียูวี รถเอสยูวี และรถกระบะ โดยเฉพาะ ได้รับการติดตั้งเพื่อทดสอบประสิทธิภาพยางกับรถยนต์สมรรถนะสูงชั้นนำอย่าง โตโยต้า ไฮลักซ์ (Toyota Hilux), ปาเจโร สปอร์ต (Pajero Sport), ฟอร์ด เอเวอเรสต์ (Ford Everest), ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ (Ford Ranger Raptor) และ มาสด้า บีที50 (Mazda BT50)