อีวี ไพรมัส เดินหน้านโยบายการดูแลลูกค้า 1,000 คันแรก ยืนยันการส่งมอบในปี 2565
สร้างความมั่นใจแก่ลูกค้า VOLT CITY EV 1,000 คนแรกให้ดีที่สุด
บริษัท อีวี ไพรมัส จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบบมัลติแบรนด์ (Multi-Brand EV Distributor) แห่งแรกของไทย และผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการของแบรนด์ DFSK หรือ DONGFENG ผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 2 ของจีน รวมถึง แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียม SERES แต่ผู้เดียวในประเทศไทย เปิดตัว VOLT ภายใต้คอนเซ็ปท์ VOLT CITY EV สู่สายตาประชาชนอย่างเป็นทางการในงาน BIG Motor Sale ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 – 28 สิงหาคมนี้ที่ Hall 101 – 104 ไบเทค บางนา
นายพิทยา ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท อีวี ไพรมัส จำกัด เปิดเผยว่าลูกค้า 1,000 คนแรกที่ได้ทำการจองรถ VOLT CITY EV ผ่านระบบการลงทะเบียนและชำระเงินจองออนไลน์ของบริษัท เป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น ทางบริษัทฯ ถือว่าลูกค้ากลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มลูกค้าบุกเบิกของ VOLT CITY EV และเป็นผู้มีอุปการะคุณต่อบริษัทฯ อย่างมาก ทาง อีวี ไพรมัส ได้เตรียมความพร้อมในการแสดงความขอบคุณกับลูกค้ากลุ่มนี้ โดยจะเน้นในด้านการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้ากลุ่มนี้และการให้บริการหลังการขายที่ดี โดยได้เน้นย้ำไปที่สำนักงานของดีลเลอร์จำนวน 28 แห่งทั่วประเทศ ให้เน้นการให้บริการหลังการขายอย่างมืออาชีพ อีกทั้งจะต้องตอบคำถามในทุกคำถามของลูกค้า พร้อมให้บริการอย่างใกล้ชิดตั้งแต่ก่อนส่งมอบรถจนถึงหลังส่งมอบรถ
ล่าสุดทางบริษัทได้มีการจับมือกับวิริยะประกันภัย บริษัทประกันชั้นนำของไทย ในการทำ Exclusive Deal เพื่อทำประกันภัยรถยนต์ให้กับ VOLT CITY EV ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่การส่งมอบคันแรก และ บริษัทฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะแจ้งลูกค้าที่สั่งจองสำเร็จ 1,000 คนแรกว่า ประกันภัยที่ลูกค้าได้แถมใน PREMIUM DEAL ทุกกรมธรรม์ ลูกค้าจะได้รับกรมธรรม์ของบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด
“แม้ว่ายอดจอง VOLT CITY EV ได้ทะลุ 1,000 คัน ตามเป้าหมายที่เราได้กำหนดไว้ แต่เราจะยังคงเปิดโอกาสให้ลูกค้าที่ได้สัมผัสกับตัวรถจริง ให้สามารถสัมผัสรถยนต์ไฟฟ้าแบบ City EV ในราคาที่จับต้องได้ พร้อมเปิดลงทะเบียนแสดงความจำนงค์ในการจองรอบต่อไป ได้ภายในงาน และ ที่ดีลเลอร์ทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางออนไลน์ของบริษัท www.voltthailand.com จากวันนี้ไป ซึ่งจะถูกนับเป็นคิวต่อเนื่องจากลูกค้าที่สั่งจองไปในช่วงเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรก 1,000 คัน เพื่อเป็นการยืนยันเงื่อนไขพิเศษกว่าที่ลูกค้า 1,000 คนแรกได้รับ” นายพิทยา กล่าว
นายพิทยากล่าวว่าหัวใจสำคัญในการดูแลลูกค้าคือเครือข่ายการให้บริการหลังการขายคือดีลเลอร์ ดังนั้น ทาง อีวี ไพรมัส จึงมีความชัดเจนต่อนโยบายที่ให้กับดีลเลอร์ทั่วประเทศทั้ง 28 แห่งให้เน้นเรื่องบริการหลังการขายที่ดี มีความรับผิดชอบและที่สำคัญคือการสำรองอะไหล่ให้ครบถ้วน โดยเฉพาะอะไหล่ประเภท Fast Moving Parts ที่จะต้องมีปริมาณที่เพียงพอต่อการให้บริการลูกค้า โดยทางบริษัทฯ ได้ลงทุนด้านการสำรองอะไหล่ไว้สูงถึงกว่า 30 ล้านบาทที่คลังอะไหล่บนพื้นที่ 20 ไร่ย่านรังสิต
“นอกจากนี้ เพื่อเป็นการให้บริการลูกค้าอย่างทั่วถึง อีกทั้งยังจะช่วยผลักดันด้านการขายของเราให้ได้ตามเป้าหมาย ภายในปีนี้ เราจะเพิ่มดีลเลอร์ของเราอีก 4 จังหวัดเป็น 32 แห่งทั่วประเทศ” นายพิทยา กล่าว
นายพิทยากล่าวว่าสำหรับการเปิดรับลงทะเบียนรอบถัดของ VOLT CITY EV ทางบริษัทฯ ได้มีการปรับราคาพร้อมโปรโมชั่นแพ็คเก็จ 8 รายการ เพิ่มขึ้นจากช่วงแนะนำอีก 10,000 บาท จาก 355,000 บาทสำหรับรุ่น VOLT FOR-TWO + PREMIUM DEAL มาเป็น 365,000 บาท และ สำหรับรุ่น VOLT FOR-FOUR + PREMIUM DEAL จาก 415,000 บาท มาเป็น 425,000 บาท
โดย PREMIUM DEAL ยังคงมีรายละเอียดดังนี้
1. ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง (เฉพาะลูกค้าที่จัดไฟแนนซ์กับกรุงศรีออโต้ เท่านั้น)
2. ฟรี รับ EXTENDED WARRANTY ของแบตเตอรี่ เป็น 5 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร
3. ฟรี ค่าบำรุงรักษา 2 ปี ที่โชว์รูมและศูนย์บริการทั่วประเทศ
4. ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน และ บริการชาร์จแบตฉุกเฉินนอกสถานที่ 2 ปี
5. ฟรี ออฟชั่นตัวท๊อป หน้าจอแสดงผล 7” แบบ Double Screen
6. ฟรี ออฟชั่นตัวท๊อป พวงมาลัย แบบมัลติฟังค์ชั่น
7. ฟรี ออฟชั่นตัวท๊อป ไฟหน้า และ ไฟท้าย เป็น LED
8. บริการตรวจสอบระบบไฟฟ้าภายในบ้านเพื่อความปลอดภัยในการชาร์จรถไฟฟ้า มูลค่า 5,000 บาท
“แม้ว่าราคาใหม่ที่ปรับขึ้นมาครั้งนี้จะสูงขึ้น แต่ก็ยังคงเป็นราคาที่จับต้องได้และเป็นราคาที่สะท้อนถึงต้นทุนที่แท้จริงที่เกิดจากการอ่อนตัวของค่าเงินบาท อีกทั้งต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นจากปัญหา Supply Chain ของโลก” นายพิทยา กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงมีความร่วมมืออย่างดีกับกรุงศรี ออโต้ ด้วยข้อเสนอ Exclusive Deal ดาวน์เริ่มต้น 0-5% และ ผ่อนได้ยาวถึง 84 เดือน เริ่มต้นเดือนละ 3,000 กว่าบาท
VOLT CITY EV เป็นรถที่เน้นใช้งานในเมืองเป็นหลักที่จะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สำหรับคนเมือง ขนาดตัวถังกะทัดรัด สไตล์มินิมอล ด้วยมิติความยาวของตัวรถ 3,380 มม. ความกว้าง 1,499 มม. และความสูง 1,610 มม. ในรุ่น 5 ประตู 4 ที่นั่ง และความยาว 2,920 มม. ความกว้าง 1,499 มม. และความสูง 1,610 มม. สำหรับรุ่น 3 ประตู 2 ที่นั่ง โดยเลือกใช้สีตัวถังแบบทูโทน กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวสีเดียวกับตัวรถ ฝาครอบล้อแบบ Plum Blossom สีเดียวกับตัวรถ ไฟหน้าเป็นแบบ LED พร้อมไฟเลี้ยวแบบมีขอบ ไฟท้าย LED แบบ Ruby Style มีสีแบบทูโทนให้เลือกทั้งสิ้น 6 สี ได้แก่ Cream Coke, Peach Pink, Gentle Green, Wisdom White, Ruby Red และ Spark Silver
ภายในห้องโดยสาร ได้รับการออกแบบให้มีความกว้างขวาง โปร่งสบาย มีความสูงของตัวรถถึง 1,610 มม. ใช้โทนสีแบบทูโทน วัสดุแผงคอนโซลเป็นพลาสติกขึ้นรูปที่ดูสวยมีสไตล์ โดยในรุ่นท๊อปจะมาพร้อมจอแสดงข้อมูล Multi-Function แบบ Double Screen ปุ่มควบคุมเสียงและโทรศัพท์บนพวงมาลัย กล้องมองขณะถอยหลัง เกียร์เป็นแบบปุ่มกดสไตล์รถ EV คอนโซลดูเรียบหรูทันสมัย ตัดขอบช่องแอร์ด้วยวัสดุสีเงินด้าน เบาะหนังใช้โทนสีแบบทูโทนเช่นกัน
ส่วนการชาร์จกระแสไฟฟ้าจะเป็นแบบ Normal Charge (AC) เท่านั้น โดยจะใช้เวลาในการชาร์จเต็มประมาณ 6 ชั่วโมง เมื่อชาร์จเต็มสามารถขับได้ไกล 200 กิโลเมตร และทำความเร็วสูงสุดได้ 105 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในรุ่น 5 ประตู ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 34 KW มีพละกำลัง 46 แรงม้า แรงบิด 102 นิวตันเมตร ส่วนในรุ่น 3 ประตู ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 30 KW พละกำลัง 40 แรงม้า แรงบิด 90 นิวตันเมตร ใช้แบตเตอรี่แบบลิเธียม ฟอสเฟต ขนาด 16.5 kWh (สำหรับ 5 ประตู) และ 11.8 kWh (สำหรับ 3 ประตู) มาพร้อมกับระบบเบรก ABS EBD ถุงลมนิรภัย ระบบวัดลมยางอัตโนมัติ TPMS