โครงการโตโยต้า ถนนสีขาว นำนักศึกษาที่ชนะการประกวด “Campus Challenge 2019”

By / 5 years ago / News / No Comments
โครงการโตโยต้า ถนนสีขาว นำนักศึกษาที่ชนะการประกวด “Campus Challenge 2019”

โครงการโตโยต้า ถนนสีขาว นำนักศึกษาที่ชนะการประกวด “Campus Challenge 2019” ศึกษาดูงานด้านความปลอดภัยทางถนน ณ ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 2 – 7 กุมภาพันธ์ 2563

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ตระหนักถึงปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มวัยรุ่นที่ถือเป็นวัยเริ่มต้นของการใช้รถใช้ถนน และเป็นกำลังสำคัญของสังคมต่อไปในอนาคต ดังนั้นเพื่อให้เยาวชนเกิดการตระหนักถึงปัญหาและผลกระทบที่เกิดขึ้น จึงริเริ่มกิจกรรม “Campus Challenge โดยโตโยต้า ถนนสีขาว”   ซึ่งดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 6 โดยให้นิสิตนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ได้มีส่วนร่วมในการออกแบบแผนประชาสัมพันธ์และรณรงค์สร้างความปลอดภัยบนท้องถนนในรั้วมหาวิทยาลัยจนถึงการลงมือปฏิบัติเพื่อลดอุบัติเหตุจริง โดยคาดหวังให้ความคิดสร้างสรรค์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่นี้เป็นพลังขับเคลื่อนในการสร้างวินัยและน้ำใจ เพื่อสร้างสังคมคนขับรถดี อันจะนำไปสู่ถนนสีขาวหรือถนนปลอดอุบัติเหตุได้อย่างแท้จริงในอนาคต

วัตถุประสงค์ของกิจกรรม

• เพื่อให้นิสิตนักศึกษาตระหนักถึงปัญหาเรื่องความปลอดภัยโดยใช้ความรู้ความสามารถด้านการวางแผนงานเพื่อประชาสัมพันธ์และรณรงค์การลดอุบัติเหตุทางถนนเผยแพร่สู่สาธารณชน และสามารถนำแผนงานไปใช้ประโยชน์ได้จริงอย่างเป็นรูปธรรมในอนาคต

• เพื่อให้นิสิตนักศึกษาได้มีเวทีในการแสดงออกถึงความรู้ความสามารถ และศักยภาพของตนเองอย่างสร้างสรรค์

• เพื่อให้นิสิตนักศึกษาได้มีส่วนร่วมในการประชาสัมพันธ์และรณรงค์ลดอุบัติเหตุในรั้วมหาวิทยาลัย โดยใช้ประสบการณ์จริงและเป็นโครงการต้นแบบในการลดอุบัติเหตุของมหาวิทยาลัย

รอบชิงชนะเลิศ

• 15 ทีมสุดท้ายจะต้องนำเสนอผลลัพธ์จากการรณรงค์รวมทั้งวิธีการประเมินผลของตนต่อหน้าคณะกรรมการ โดยแต่ละทีมมีเวลานำเสนอไม่เกิน 15 นาที เพื่อให้คณะกรรมการได้พิจารณาคัดเลือก ทีมที่ได้รับรางวัล

• นำเสนอผลงานและประกาศผลผู้ชนะ วันที่ 19 ธันวาคม 2562

เกณฑ์ในการตัดสิน

• แผนสามารถปฏิบัติได้จริง และมีความยั่งยืน เพื่อนำไปสู่การสร้างสังคมคนขับรถดีในสถานศึกษา

(Implementation Plan & Sustainable Plan) 35%

• การประชาสัมพันธ์โครงการ เพื่อการสร้างเครือข่ายสังคมคนขับรถดีในสถานศึกษา

(PR & Communication Plan) 30%

• โครงการมีความแปลกใหม่และมีความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) 15%

• การประเมินโครงการ (Evaluation) 10%

• เทคนิคการนำเสนอที่น่าสนใจ (Presentation) 10%

การดำเนินกิจกรรมต่อยอด 4 เดือน (สำหรับทีมผู้ชนะ 3 อันดับแรก)

• ทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ 3 อันดับแรก จะต้องนำแผนงานที่ได้รับการคัดเลือกไปรณรงค์ต่อเป็นระยะเวลา 4 เดือน ในมหาวิทยาลัยของตนเอง 

• กิจกรรมจะต้องมีการประเมินผลที่ชัดเจนและวัดผลได้จริง 

    กิจกรรม Campus Challenge 2019 ได้ประกาศผลการตัดสินไปเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2562 โดยรายละเอียด มีดังนี้

    รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีม “สาธุบุญโยเร” มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

– นายธนภัทร พรหมภัทร์

– นางสาวปวริศา ปัทมะสุวรรณ์

– นาวสาวอาทิตยา พิมพาคำ

– นางสาวอารียา หน่อสุวรรณ     

    ชื่อแผนรณรงค์  The Lucky C Way ทางม้าลายสายมงคล

        รางวัลที่ได้รับ

– ศึกษาดูงานด้านความปลอดภัยทางถนนที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นเวลา 5 วัน มูลค่า 500,000 บาท

– ทุนการศึกษา 100,000 บาท ทุนสนับสนุนในการพัฒนาแผนงานแก่คณาจารย์ที่ปรึกษา 30,000 บาท

– เงินสนับสนุน 100,000 บาท มอบให้มหาวิทยาลัยเพื่อการดำเนินกิจกรรมต่อยอด 4 เดือน

– โอกาสฝึกงานที่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด หรือพันธมิตร

    รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ทีม “Chinathip” มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

– นายพิสิษฐ์ แก้วศิลา

– นายชัยภัคดิ์ ตั้งประจักษ์

– นางสาวนันทิชา สวัสดีพละ

– นายภัทรวิทชญ์ ภัทรวัฒน์กุล

    ชื่อแผนรณรงค์ Bluedyguard ใครไม่เห็น แต่บลูดี้เห็นเด้อ

    รางวัลที่ได้รับ

– ศึกษาดูงานด้านความปลอดภัยทางถนนที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นเวลา 5 วัน มูลค่า 500,000 บาท

– ทุนการศึกษา 80,000 บาท ทุนสนับสนุนในการพัฒนาแผนงานแก่คณาจารย์ที่ปรึกษา 20,000 บาท

– เงินสนับสนุน 100,000 บาท มอบให้มหาวิทยาลัยเพื่อการดำเนินกิจกรรมต่อยอด 4 เดือน

    รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ทีม “4 ANGIES ขี่ม้ายูนิคอร์น” มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

– นายเสกสรร นาหัวนิล

– นางสาวณัชชา ผิวผ่อง

– นายธีระนัย จันทร์ไพสนต์

– นางสาวปรียานุช สุโพธิ์

    ชื่อแผนรณรงค์ UniCross Safe Life

    รางวัลที่ได้รับ

– ศึกษาดูงานด้านความปลอดภัยทางถนนที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นเวลา 5 วัน มูลค่า 500,000 บาท

– ทุนการศึกษา 50,000 บาท ทุนสนับสนุนในการพัฒนาแผนงานแก่คณาจารย์ที่ปรึกษา 10,000 บาท

– เงินสนับสนุน 100,000 บาท มอบให้มหาวิทยาลัยเพื่อการดำเนินกิจกรรมต่อยอด 4 เดือน

    สำหรับกิจกรรมศึกษาดูงานด้านความปลอดภัยทางถนน ณ ประเทศญี่ปุ่น ในครั้งนี้ นิสิต นักศึกษา ได้มีโอกาสเยี่ยมชมนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ พร้อมทั้งเปิดประสบการณ์ด้านการขับขี่และการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย ตามสถานที่ต่างๆ ดังนี้

พิพิธภัณฑ์โตโยต้า Toyota Commemorative Museum of Industry and Technology

    พิพิธภัณฑ์ได้รับการออกแบบเพื่อจัดแสดงผลงานอันน่าตื่นตาตื่นใจกว่า 4,000 ชิ้น ทั้งในรูปแบบของอุปกรณ์การทำงานแบบดั้งเดิม   สื่อการนำเสนอในรูปแบบวิดีทัศน์ และอื่นๆ นิทรรศการทั้งหมดนำเสนอในรูปแบบที่เข้าใจง่าย ภายใต้แนวคิดแห่งการรังสรรค์ ผ่านอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลและสิ่งทออันถือเป็นจุดกำเนิดของกลุ่มบริษัทโตโยต้า รวมทั้งจัดแสดงวิวัฒนาการของอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี

    I. หอแสดงเครื่องจักรกลสิ่งทอ (Textile Machinery Pavilion)

    พื้นที่จัดแสดงผลงานกว่า 3,468 ตารางเมตร ในโรงงานปั่นฝ้ายที่สร้างขึ้นในยุคไทโช (1912 – 1926) และยังคงเอกลักษณ์เช่นเดิมไว้จวบจนปัจจุบัน ผลงานที่จัดแสดงสะท้อนความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในด้านพลังงานที่ใช้ขับเคลื่อนเครื่องจักรกลต้นแบบ การออกแบบลวดลาย และกว่า 90 เครื่องปั่นและเครื่องทอผ้าอันหลากหลาย เพื่อให้ผู้ชมเข้าใจถึงพัฒนาการทางเทคนิคที่เกิดขึ้น

    II. หอยานยนต์ (Automobile Pavilion)

    พลาดไม่ได้กับหอแสดงผลงานเนื้อที่กว่า 7,900 ตารางเมตร ตื่นตากับโรงงานยานยนต์ขนาดมหึมา พบนิทรรศการเจาะลึกกลไกยานยนต์และอุปกรณ์อะไหล่ เทคโนโลยียานยนต์และการผลิต เยี่ยมชมระบบการทำงานเครื่องจักรกลจริง และแบบจำลองอุปกรณ์ผ่าครึ่ง (พร้อมปุ่มแสดงการทำงานเฉพาะจุด) เครื่องมือทดลองและอุปกรณ์การผลิต สนุกสนานกับวิดีทัศน์สาธิตด้านยานยนต์ที่ชัดเจนและเข้าใจง่ายด้วยภาพจริงและเสียงประกอบ

  พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีและยานยนต์ (Toyota Kaikan Museum) 

    นับตั้งแต่วันก่อตั้ง โตโยต้าได้ยึดมั่นกับปณิธานที่จะ “ร่วมรังสรรค์สังคมอันรุ่งเรืองด้วยการผลิตยานยนต์ (Contribution toward a prosperous society by making automobile)”  เพื่อสร้างสรรค์พรุ่งนี้ที่ดีกว่าเดิม โดยศตวรรษที่ 21 นี้ โตโยต้ามุ่งมั่นที่จะพัฒนาเทคโนโลยีไฮบริดและเทคโนโลยีความปลอดภัย ร่วมแก้ไขปัญหาสภาวะโลกร้อนและอุบัติภัยบนท้องถนน ควบคู่ไปกับการนำเสนอความสะดวกสบายจากยานยนต์ รวมทั้งสนับสนุนการสร้างความฝันและแรงบันดาลใจแห่งยานยนต์ให้เข้าถึงหมู่มวลมนุษยชาติในทุกมุมโลก ภายใต้แนวคิด “วันนี้เพื่ออนาคต (Today for Tomorrow)” โตโยต้าได้กำหนดแนวทางดำเนินกิจกรรมการผลิตจากแรงบันดาลใจ 

    หอนิทรรศการโตโยต้าไคคัง ได้นำเสนอในรูปแบบการจัดแสดงนิทรรศการยานยนต์ และสื่อภาพและเสียง เพื่อถ่ายทอดวิสัยทัศน์ของโตโยต้าที่จะสร้างความรุ่งเรืองให้กับสังคมด้วยการผลิตยานยนต์ รวมทั้งเทคโนโลยีการผลิตยานยนต์ที่เหนือชั้น ผู้เข้าชมทั้งเด็กและผู้ใหญ่จะได้รับความเพลิดเพลินจากการเยี่ยมชม หอนิทรรศการที่มีการจัดนิทรรศการที่หลากหลายในแต่ละช่วงเวลา โดยสามารถแบ่งเป็น 7 โซน คือ

1) Eco and Emotion  จัดแสดงยนตรกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเน้นยานยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีไฮบริดเป็นหลัก

2) Safety and Freedom  จัดแสดงนวัตกรรมเทคโนโลยีความปลอดภัยในรถยนต์โตโยต้า

3) Production and Creation นำเสนอกระบวนการผลิตรถยนต์ด้วยอุปกรณ์และเครื่องมืออันทันสมัย

4) Company and Society  เป็นโซนที่นำเสนอเทคโนโลยีและการดำเนินงาน ที่จะช่วยสร้างอนาคตที่ดีขึ้นผ่านกิจกรรมต่างๆ ของโตโยต้า

5) Exhibition for Children มุมจัดแสดงกลไกการทำงานของรถยนต์ การออกแบบรถยนต์ กระบวนการผลิตและความปลอดภัยทางจราจรของโตโยต้าให้แก่เยาวชน

6) Toyota Vehicles พื้นที่จัดแสดงรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดของโตโยต้า

7) Lexus Vehicles พื้นที่จัดแสดงรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดของเลกซัส 

8) Toyota Gazoo Racing  พื้นที่จัดแสดงกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตและโปรแกรมการแข่งขันของทีม Toyota Gazoo Racing

  Toyota Mega web 

    ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2542 เพื่อเป็นสวนสนุกในรูปแบบใหม่ที่เน้นเรื่องของรถยนต์  ซึ่งประกอบด้วยพื้นที่ 3 ส่วน ได้แก่ พื้นที่ส่วนจัดแสดงเมืองโตโยต้า (Toyota City Showcase) สตูดิโอการขับขี่ (Ride Studio) และพื้นที่ส่วนจัดแสดงรถยนต์ในประวัติศาสตร์ (History Garage)

• พื้นที่ส่วนจัดแสดงเมืองโตโยต้า (Toyota City Showcase) เป็นพื้นที่จัดแสดงรถยนต์รุ่นล่าสุดเป็นครั้งแรกก่อนเปิดตัวในที่อื่นๆ พร้อมทั้งยังจัดแสดงเทคโนโลยีมอเตอร์สปอร์ตที่ล้ำสมัยสำหรับโลกอนาคต โดยแบ่งเป็น

– โซนจัดแสดงรถยนต์ (Line-Up Zone) บรรดารถยนต์รุ่นใหม่ของโตโยต้าจะถูกนำมาจัดแสดงที่บริเวณนี้ 

– โซน GR (GR Zone) เป็นพื้นที่ลักษณะลำลองที่เปิดโอกาสให้ผู้เยี่ยมชมได้สัมผัสความสนุกสนานเร้าใจของรถมอเตอร์สปอร์ต ไม่ว่าจะเป็นการจับจอง การได้ทดลองขับจริง และการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่อง

– โซน TOYOTA x SPORTS  พื้นที่ที่คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์ของกีฬาพาราลิมปิกและกิจกรรมกีฬาต่างๆ ที่โตโยต้าให้การสนับสนุนลองเล่นกีฬา บ็อคเซีย (Boccia) บาสเก็ตบอลรถเข็น (Wheelchair Basketball) หรือ ฮอกกี้บนพื้นธรรมดา (Floor Hockey)

– โซนเทคโนโลยี พื้นที่ที่คุณสามารถเปิดประสบการณ์ตื่นตาตื่นใจและสนุกสนานไปกับเทคโนโลยีล้ำสมัยของโตโยต้า 

• สตูดิโอการขับขี่ (Ride Studio) พื้นที่ส่วนนี้จัดขึ้นเพื่อให้ผู้เยี่ยมชมทั้งเด็กและผู้ใหญ่สามารถเปิดประสบการณ์สัมผัสความสนุกในการขับขี่ และเรียนรู้เกี่ยวกับกฎจราจร

• พื้นที่ส่วนจัดแสดงรถยนต์ในประวัติศาสตร์ (History Garage) บรรดารถวินเทจรุ่นต่างๆ ตั้งแต่ปีทศวรรษ 1950 – 1970 จากทั่วทุกมุมโลก ถูกนำมาจัดแสดงในบริเวณนี้ท่ามกลางกลิ่นอายและบรรยากาศแบบย้อนยุค พบกับภาพในตำนานของมรดกแห่งวงการมอเตอร์สปอร์ตของโตโยต้า ที่จะปลุกตำนานอันรุ่งโรจน์ให้กลับมาคืนชีพอีกครั้ง

    ศูนย์ศึกษาความปลอดภัย โตโยต้า โมบิลิต้าส์ (Mobilitas)

จุดเริ่มต้นของการขับขี่ปลอดภัยคือการเข้าใจข้อจำกัดของตนเองและของรถยนต์ สามารถตอบสนองได้อย่างว่องไวต่อสถานการณ์ในการขับขี่ที่เปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนมีความตระหนักถึงเพื่อนร่วมทางคนอื่นๆ บนท้องถนน      ด้วยแนวคิดนี้ทำให้มีการก่อตั้ง “โมบิลิต้า” ขึ้น  โดยโตโยต้ามุ่งหวังที่จะให้บุคคลทั่วไปได้มีโอกาสเข้ารับการอบรมโครงการขับขี่ปลอดภัยได้มากขึ้น จึงได้สร้างสถานที่แห่งนี้บนพื้นที่ราว 100,000 ตารางเมตร (เทียบเท่ากับสนามฟุตบอลประมาณ 15 สนาม) เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้มีประสบการณ์เรียนรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการทำงานด้านความปลอดภัยของรถยนต์ ผ่านหลักสูตร Toyota Driver Communication ซึ่งประกอบด้วย

• หลักสูตรสำหรับบุคคลทั่วไป 

– หลักสูตรพื้นฐาน (1 วัน) 

เรียนรู้ข้อจำกัดของการทำงานของรถยนต์โดยพื้นฐาน ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอย่างถูกต้องเหมาะสม หลักสูตรนี้จะช่วยพัฒนาทักษะการขับขี่ปลอดภัยได้อย่างครอบคลุม ตลอดจนตรงกับความต้องการของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้เริ่มต้นขับรถหรือผู้ขับขี่ที่มีประสบการณ์แล้ว

– หลักสูตรขั้นสูง (1 วัน)

ครอบคลุมเกี่ยวกับวิธีการขับขี่ขั้นพื้นฐานบนถนนหนทางที่ขับขี่ด้วยความเร็วสูง การบังคับรถเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะฉุกเฉิน และการขับขี่บนพื้นถนนที่มีความลื่น หลักสูตรนี้ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อพัฒนาทักษะการขับขี่ปลอดภัยสำหรับผู้ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรพื้นฐานมาก่อนหน้านี้แล้ว

– หลักสูตรสำหรับผู้เชี่ยวชาญ (ครึ่งวัน)

หลักสูตรนี้ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรขั้นสูงแล้ว โดยเป็นหลักสูตรที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมอบรมได้อบรมกับผู้ฝึกสอนอย่างใกล้ชิดแบบตัวต่อตัว เพื่อฝึกปรือเทคนิคการขับขี่อย่างปลอดภัยและนุ่มนวลให้เชี่ยวชาญ

– หลักสูตรครึ่งวัน

หลักสูตรนี้มีเนื้อหาในลักษณะเดียวกับหลักสูตรพื้นฐาน แต่ได้รับการย่นระยะเวลาการอบรมทักษะการขับขี่ปลอดภัยให้กระชับมากขึ้นโดยเหลือเพียงครึ่งวัน 

• หลักสูตรสำหรับหน่วยงานและองค์กรต่างๆ 

หลักสูตรเหล่านี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของบุคคลที่จำเป็นต้องขับขี่รถยนต์ในการทำงานหรือเดินทางสัญจร รวมถึงผู้ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอนการขับขี่ปลอดภัยให้กับหน่วยงานและองค์กรต่างๆ ตลอดจนผู้ที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบด้านการบริหารจัดการการขับขี่ปลอดภัยภายในหน่วยงานหรือองค์กร

– หลักสูตร 1 วัน สำหรับหน่วยงานและองค์กร 

– หลักสูตร 2 วัน สำหรับหน่วยงานและองค์กร 

– หลักสูตร 1 วัน สำหรับผู้ฝึกสอน

– หลักสูตร 2 วัน สำหรับหัวหน้างานที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบด้านการขับขี่ปลอดภัย

หมายเหตุ : สามารถจัดหลักสูตรตามความต้องการที่แตกต่างออกไปของกลุ่มของคุณ

• หลักสูตร Toyota Racing Driver Meeting  

    – หลักสูตร Toyota Racing Driver Meeting ขั้นพื้นฐาน (1 วัน)

หลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรการฝึกทักษะการขับขี่ปลอดภัยในภาคปฏิบัติ โดยมีผู้ขับรถแข่งจากทีมรถแข่งของโตโยต้า (ซึ่งได้รับการจัดอันดับให้เป็นผู้ที่มีฝีมือยอดเยี่ยมที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ในการแข่งขันซูเปอร์จีที) นั่งประกบข้างๆ คุณเพื่อให้คำแนะนำแบบตัวต่อตัว และแบ่งปันความรู้ต่างๆ ที่พวกเขาได้รับจากประสบการณ์การแข่งขันในลักษณะที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ในการขับขี่ปลอดภัย

    – หลักสูตร Toyota Racing Driver Meeting ขั้นสูง (1 วัน)

หลักสูตรนี้พัฒนาขึ้นสำหรับผู้ที่ผ่านการอบรมหลักสูตร Toyota Racing Driver Meeting ขั้นพื้นฐานมาก่อนหน้านี้แล้ว โดยจะมีสื่อการสอนต่างๆ เพื่อตรวจวัดการเคลื่อนไหวของรถยนต์ (เช่น การถ่ายน้ำหนัก) ระหว่างการขับขี่ (เช่น การเบรก) เพื่อให้ผู้อบรมมีความรู้ความเข้าใจที่ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น เกี่ยวกับลักษณะต่างๆ ของรถยนต์ ตลอดจนการขับขี่ปลอดภัย

โดยเนื้อหาที่ครอบคลุมอยู่ในหลักสูตรต่างๆ ของ Toyota Driver Communication ประกอบด้วย

• การตรวจสอบจุดบอด (Blind-spot checking)

• การตรวจสอบท่าทางการขับขี่ (Checking driving posture)

• การเบรกกะทันหันขณะใช้ความเร็วสูง (Full braking at high speed)

• การเบรกบนพื้นถนนลื่น (Low-resistance course braking) 

• การขับรถบนพื้นถนนลื่น (Low-resistance course driving)

• การขับรถโดยทั่วไป (Overall driving)

   Institute Traffic Accident Research And Data Analysis (ITARDA) 

    เป็นที่ศึกษาเรียนรู้ในเรื่องการวิจัยและการวิเคราะห์ข้อมูลอุบัติเหตุบนถนน ก่อตั้งในปี พ.ศ.2535 โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติและสมาคมผู้ผลิตยานยนต์ญี่ปุ่น ทำให้ทราบถึงลักษณะและสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพื่อเป็นการปลูกจิตสำนึกด้านความปลอดภัยบนถนนให้คนทุกวัย รวมถึงเห็นความสำคัญของการใช้อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยในรถยนต์

     ซึ่งการเดินทางไปศึกษาดูงานในครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดประสบการณ์การเรียนรู้ด้านความปลอดภัยบนถนนให้แก่ นิสิต นักศึกษา ตลอดจนนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ในแผนรณรงค์เพื่อต่อยอดโครงการอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 4 เดือน เพื่อที่จะร่วมสร้างความปลอดภัยบนถนนให้แก่สังคมไทย ให้เป็นถนนสีขาวหรือถนนแห่งความปลอดภัยอย่างยั่งยืน