นิสสัน ‘นาวารา ใหม่’ บุกตลาดประเทศไทยที่แรกในโลก
นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย ส่ง นิสสัน นาวารา ใหม่ บุกตลาดเป็นประเทศแรกในโลก ด้วยดีไซน์ใหม่ดุดัน เครื่องยนต์ดีเซลใหม่ ขนาด 2.3 ลิตร ทวินเทอร์โบ และติดตั้งนิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี เทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะเต็มรูปแบบ เพื่อลูกค้าคนไทยด้วยพลังที่กล้า เพื่อคนแกร่ง
ดีไซน์คอนเซ็ปต์ “Unbreakable Design” คำนึงถึงการใช้งาน และความชื่นชอบของลูกค้า ด้วยดีไซน์ภายนอกที่ดุดัน กระจังหน้าใหม่แบบ Interlock และซุ้มล้อขนาดใหญ่เพิ่มความโดดเด่น ระบบไฟหน้าแบบ QUAD – LED คุณภาพสูง 4 ดวงพร้อม Daytime Running Light และไฟท้ายแบบ LED แบบเส้นเดียวที่ทันสมัย โดยไม่ละทิ้ง DNA ของนิสสันที่ท้าทายทุกขีดจำกัด และพร้อมให้ลูกค้าสามารถเดินทางไปได้ทุกที่ จากชื่อเสียงมากกว่า 80 ปีของรถกระบะนิสสันที่ลูกค้ายอมรับในเรื่องความแข็งแกร่งทนทาน
ราเมช นาราสิมัน ประธานบริษัท นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า “การเปิดตัวในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ Nissan NEXT ที่ประเทศไทยเป็นหนึ่งในสองฐานการผลิตนิสสัน นาวารา ใหม่ เพื่อลูกค้าชาวไทยและส่งออกไปกว่า 26 ประเทศ พิสูจน์ความสำคัญของประเทศไทยฐานะศูนย์กลางด้านการผลิต รวมถึงการวิจัยและพัฒนา สำหรับลูกค้านิสสันในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย ผม และพนักงานนิสสันทุกคนจะมุ่งมั่นรักษาคุณภาพที่ได้มาตรฐานระดับโลกจากฐานการผลิตในประเทศไทย และนำเสนอรถยนต์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในปัจจุบันที่ชื่นชอบความท้าทายและการออกไปผจญภัยเพื่อค้นหาประสบการณ์ใหม่ ๆ นิสสันจึงได้เพิ่มรุ่น PRO4X และ PRO2X กระบะแอดเวนเจอร์ ที่พร้อมพาลูกค้าของเราเดินทางก้าวข้ามทุกความท้าทาย ได้อย่างมั่นใจ”
เครื่องยนต์ของนิสสันมีชื่อเสียงทั้งด้านประสิทธิภาพ และความทนทาน โดย นาวารา ใหม่ มีเครื่องยนต์ 3 แบบได้แก่
- เครื่องยนต์ YS23DDTT ขนาด 2.3 ลิตร 4 สูบ ทวินเทอร์โบ เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด พร้อมโหมดแมนนวล ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า (Ps) และแรงบิด 450 นิวตัน-เมตร (Nm)
- เครื่องยนต์ YS23DDT ขนาด 2.3 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบแปรผันแบบ VGS เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า (Ps) และแรงบิด 403 นิวตัน-เมตร (Nm)
- เครื่องยนต์ YD25DDTTi ขนาด 2.5 ลิตร เทอร์โบแปรผันแบบ VGS ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า (Ps) และแรงบิด 403 นิวตัน-เมตร (Nm)
นอกจากนี้ ยังคงความสมบูรณ์แบบที่สามารถลุยได้ทุกที่ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และเทคโนโลยีที่เสริมความมั่นใจในทุกสภาวะของเส้นทาง อาทิ ระบบป้องกันการลื่นไถล (Brake Limited Slip Differential: B-LSD) และ ระบบล็อกเฟืองท้ายแบบไฟฟ้า (Electronic Rear Locking Differential) รวมถึงเทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (IAVM) ที่เสริมฟังก์ชัน Off-Road Meter เมื่ออยู่ในโหมด 4L
สำหรับสีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ได้แก่ สีขาว ไวท์ โซลิด (White Solid), สีขาว ไวท์ เพิร์ล (White Pearl), สีเงิน บริลเลียนท์ ซิลเวอร์ (Brilliant Silver), สีดำ แบล็ค สตาร์ (Black Star), สีแดง เบิร์นนิ่ง เรด (Burning Red) และสีใหม่ ฟอร์จ คอปเปอร์ (Forged Copper) ขณะที่รุ่น PRO series ทั้ง PRO4X และ PRO2X จะมี สีเทา สเตลท์ เกรย์ (Stealth Gray) เพิ่มเป็นทางเลือกเฉพาะรุ่นอีกด้วย