มูลนิธิรามาธิบดีฯ หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งปัญญามอบทุนปั้นบุคลากรทางการแพทย์ จากธารน้ำใจของผู้บริจาค
“โครงการทุนการศึกษารามาธิบดี” หวังยกระดับสาธารณสุขไทย
การศึกษาถือเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของทรัพยากรมนุษย์ เพื่อเพิ่มพูนความรู้ พัฒนาขีดความสามารถ นำไปสู่การวางรากฐานที่แข็งแกร่งของการขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืน มูลนิธิรามาธิบดี ในพระบรมราชูปถัมภ์สมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะ “สะพานแห่งการให้” สานต่อพันธกิจด้านการสร้างแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ผ่านการทอดสะพานแห่งโอกาส มอบทุนการศึกษาให้แก่นักศึกษาระดับปริญญาตรีในทุกหลักสูตรของคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ในกลุ่มผู้มีความสามารถแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ให้ได้รับโอกาสทางการศึกษาภายใต้โครงการทุนการศึกษารามาธิบดี ในบทความนี้ได้รวบรวมเรื่องราวของ 3 นักศึกษาที่ได้รับทุนจากโครงการฯ ผู้ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาระบบสาธารณสุขไทยในอนาคต
คณบดีคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และประธานคณะกรรมการบริหารมูลนิธิรามาธิบดีฯ กล่าวว่า“คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ยึดมั่นในพันธกิจหลักด้านการผลิตบุคลากรทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพและมีความเชี่ยวชาญเข้าสู่ระบบสาธารณสุขไทย โครงการทุนการศึกษารามาธิบดี จากการระดมทุนผ่านมูลนิธิรามาธิบดีฯ เป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและเปิดโอกาสให้นักศึกษาผู้มีความสามารถแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ให้สามารถเล่าเรียนได้ตามศักยภาพของตนเองอย่างเต็มที่ โดยพิธีมอบทุนการศึกษาสำหรับนักศึกษารามาธิบดี ประจำปี พ.ศ. 2567 ในครั้งนี้มอบทุนการศึกษารวม 146 ราย คิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 7,078,800 บาท ขอเป็นกำลังใจให้นักศึกษาตั้งใจศึกษาเล่าเรียน เพื่อเติบโตมาเป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความสามารถและเชี่ยวชาญพร้อมที่จะเป็น ‘ที่พึ่ง’ ของประชาชนไทยต่อไป”
พรรณสิรี คุณากรไพบูลย์ศิริ ผู้จัดการมูลนิธิรามาธิบดีฯ กล่าวว่า “แต่ละปีจะมีการมอบทุนการศึกษาประจำปีให้แก่นักศึกษารามาธิบดี มูลนิธิรามาธิบดีฯ จึงได้เปิดระดมทุน โครงการทุนการศึกษารามาธิบดี ให้ผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมบริจาคเพื่อเติมเต็มความฝัน ส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับน้อง ๆ เนื่องด้วยสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ไม่สู้ดีนัก ทำให้คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และมูลนิธิฯ อยากช่วยแบ่งเบาภาระให้กับครอบครัวน้อง ๆ ผ่านเงินบริจาคของผู้มีจิตศรัทธา ด้วยการสนับสนุนทุนการศึกษาให้กับนักศึกษารามาธิบดีทั้ง 4 หลักสูตร ถือเป็นการร่วมส่งต่อโอกาสให้กับนักศึกษาทางการแพทย์ให้เติบโตเป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่จะมาช่วยชีวิตพวกเราทุกคน”
จากอาสาสมัครกู้ภัย สู่เส้นทางของ ‘นักปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์’
“เมื่อมองถึงนาทีชีวิตระหว่างความเป็นและความตายที่อยู่ตรงหน้า ก็ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวที่จะทำหน้าที่ของนักปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์เลยแม้แต่น้อย เพราะอยากช่วยเหลือ อยากเป็นความหวังสุดท้ายให้กับผู้ป่วยในสถานการณ์วิกฤต” คือคำพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและเต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นจาก นางสาวกานต์ธิดา เศิกศิริ นักศึกษาคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี สาขาวิชาฉุกเฉินการแพทย์ จากเด็กสาวผู้มีใจรักในการเป็นอาสาสมัครกู้ภัยที่ได้ซึมซับถึงความสำคัญของการช่วยเหลือผู้ป่วยที่กำลังตกอยู่ในภาวะคุกคามต่อชีวิตให้มีโอกาสรอดชีวิต จนกลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้ก้าวสู่เส้นทางของนักปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์อย่างเต็มตัว ด้วยความตั้งใจจริงในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน พร้อมนำองค์ความรู้และประสบการณ์มา
ต่อยอดและพัฒนาระบบสาธารณสุขไทยต่อไป เพราะสำหรับ กานต์ธิดา ‘การให้’ ที่ยิ่งใหญ่คือ
การให้ชีวิต
‘นักเวชศาสตร์การสื่อความหมาย’ ผู้จุดประกายเสียงแห่งความหวัง
การสื่อสารเปรียบเหมือนสะพานที่เชื่อมต่อและยึดโยงผู้คนเข้าไว้ด้วยกัน และการฟื้นฟูผู้บกพร่องทางการสื่อสารให้สามารถสื่อสารได้เหมือนคนปกตินั้นถือเป็นเป้าหมายสำคัญของ ‘นักเวชศาสตร์การสื่อความหมาย’ หรือนักแก้ไขการพูด การเฝ้ามองน้องสาวผู้ป่วยดาวน์ซินโดรมเข้ารับการบำบัดด้านการพูดและการสื่อความหมายเป็นประจำ เป็นแรงผลักดันให้ นางสาวณัชชา ต่อสวัสด์วงศ์นักศึกษาคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี สาขาความผิดปกติของการสื่อความหมาย ตัดสินใจเล่าเรียนด้วยความมุ่งมั่นที่จะจบมาเป็นนักเวชศาสตร์การสื่อความหมาย “ในฐานะนักเวชศาสตร์การสื่อความหมาย ได้ตั้งเป้าหมายในการช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของการสื่อความหมายให้สามารถสื่อสารและใช้ชีวิตได้เทียบเท่าคนปกติ สำหรับการตัดสินใจขอทุนการศึกษาจากมูลนิธิรามาธิบดีฯ เป็นไปเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายภายในครอบครัว และจะตั้งใจหมั่นเพียรเรียนรู้เพื่อนำความรู้มารักษาผู้ป่วยเพื่อตอบแทนสังคมต่อไป” ณัชชา กล่าวทิ้งท้าย
ภายใต้สภาวการณ์การเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอนของโรคในปัจจุบัน คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี จึงเห็นโอกาสในการยกระดับหลักสูตรแพทยศาสตร์ให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ประกอบกับความนิยมในด้านกีฬาที่เพิ่มขึ้น จึงเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือกับวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา มหาวิทยาลัยมหิดล ในการเปิดหลักสูตรใหม่เพื่อผลิต ‘นักปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ด้านกีฬา’ (Sport Paramedic) เป็นความหวังให้กับอุตสาหกรรมการกีฬาและการแพทย์ไทยในอนาคต
จากเหตุการณ์ไม่คาดคิด พลิกชีวิตสู่การค้นพบอาชีพ ‘Sport Paramedic’ โดยไม่ละทิ้งความรักในกีฬาฟุตบอล
นายกานต์ ปาลิบาล นักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาฉุกเฉินการแพทย์ และหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา ผู้ค้นพบอาชีพนักปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ด้านกีฬา จากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน “ในขณะที่กำลังเล่นฟุตบอล อยู่ ๆ โค้ชของผมก็หมดสติและหัวใจหยุดเต้นไปกลางสนามฟุตบอล ท่ามกลางความตกใจในตอนนั้น มีนักฉุกเฉินการแพทย์เข้ามาช่วยทำให้หัวใจของโค้ชกลับมาเต้นอีกครั้ง นั่นคือสิ่งที่จุดประกายให้ผมสนใจอาชีพนักปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ ซึ่งที่คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี เป็นที่แรกและที่เดียวของประเทศไทยที่เปิดสอนในหลักสูตรที่ครอบคลุมความสนใจของผมทั้งด้านการแพทย์และด้านการกีฬา ในอนาคตผมตั้งใจที่จะช่วยเหลือและดูแลนักกีฬาอย่างดีที่สุด เพราะผมอยากให้นักกีฬาไทยได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่และเล่นกีฬาอย่างมีความสุข” กานต์ กล่าวทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้ม
มูลนิธิรามาธิบดีฯ มุ่งมั่นในการสนับสนุนการผลิตบุคลากรทางการแพทย์ที่มีศักยภาพและความเชี่ยวชาญเพื่อเข้าสู่ระบบสาธารณสุขของประเทศไทยให้มีจำนวนเพียงพอพร้อมรองรับการก้าวเข้าสู่สังคมสูงอายุในอนาคตอันใกล้ ยกระดับการรักษาและให้บริการทางการแพทย์ และเป็นที่พึ่งของประชาชนต่อไป ขอเชิญชวนประชาชนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเพื่อมอบอนาคตทางการศึกษาได้ที่ มูลนิธิรามาธิบดีฯ www.ramafoundation.or.th