สิ้นสุดการรอคอย!! “สนามช้างฯ” เตรียมระเบิดศึกสองล้อชิงแชมป์เอเชีย ครั้งแรกในรอบ 2 ปี
“สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต” ร่วมกับ “กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา” และ “เครื่องดื่มตราช้าง” เตรียมระเบิดความมันส์ศึกสองล้อชิงแชมป์ระดับทวีปรายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2022 หลังห่างหายนาน 2 ปี โดยประเทศไทยเป็นเจ้าภาพถึง 2 สนาม ประเดิมสนามแรก 25-27 มีนาคม และสนามปิดท้ายฤดูกาลในวันที่ 18-20 พฤศจิกายนนี้ พร้อมเผยรายชื่อ 7 นักบิดไทยร่วมดวลความเร็ว ด้านเจ้าของลิขสิทธิ์การแข่งขันมั่นใจมาตรการรองรับและป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี
สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ได้จัดงานแถลงข่าวจัดการแข่งขัน เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2022 โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายสุรพล อุทินทุ ผู้บริหารสำนักประสานงานภายนอก บริษัท ไทยเบฟ เวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยเครื่องดื่มตราช้าง, นายเนวิน ชิดชอบ ประธาน สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต รวมถึงตัวแทนจาก บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จํากัด และ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด รวมทั้งทัพนักบิดตัวแทนประเทศไทยที่ลงแข่งขันในรายการเข้าร่วมงาน
การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ทวีปเอเชีย รายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2022 ชิงชัยทั้งสิ้น 6 สนาม ใน 5 ประเทศ โดยสนามประเทศไทยแบ่งเป็น 2 สนามได้แก่ สนามแรก และสนามสุดท้ายของฤดูกาล โดยมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 25-27 มีนาคม และ 18-20 พฤศจิกายน 2565
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า “กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศไทยจะได้เป็นเจ้าภาพการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์เอเชียถึง 2 ครั้ง โดยได้รับคัดเลือกให้เป็นสนามเปิดและปิดฤดูกาล หลังจากที่ห่างหายจากการเป็นเจ้าภาพกีฬามอเตอร์สปอร์ตระดับนานาชาติมาแล้วถึง 2 ปี แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในมาตรการควบคุมโควิด-19 ที่เป็นที่ยอมรับในสายตาของชาวต่างชาติในระดับสากล”
“ผมเชื่อมั่นว่าการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ จะเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ในด้านความพร้อมของประเทศไทยในการเปิดประตูรับกิจกรรมด้านกีฬา ความพร้อมในด้านการจัดการแข่งขัน สาธารณสุข การอำนวยความสะดวกต่างๆ สำหรับนักแข่ง, ทีมแข่ง ผู้ชม ก่อนการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระดับโลกอย่าง โมโตจีพี 2022 ระหว่างวันที่ 29 กันยายน – 2 ตุลาคม 2565 นี้ เพราะจังหวัดบุรีรัมย์และสนามช้างฯ ผ่านการจัดกิจกรรมใหญ่ๆ มาแล้วหลายครั้ง ท่ามกลางสถานการณ์โควิด19 ด้วยมาตรการทางสาธารณสุขที่เข้มข้น ซึ่งนอกจากจะสร้างภาพลักษณ์อันดีแล้ว ยังจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจ จากการนำเม็ดเงินจากชาวต่างชาติมาสู่ประเทศไทยอีกด้วย “