อีซูซุจัดการแข่งขัน “นาฏมวยไทยอีซูซุ” รอบชิงชนะเลิศ ปีที่ 11 ชิงถ้วยพระราชทาน
พร้อมทุนการศึกษากว่า 1 ล้านบาท
บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ได้จัดการแข่งขัน “นาฏมวยไทยอีซูซุ” รอบชิงชนะเลิศ ในโครงการ “รักชาติ…รักษ์มวยไทย” สนับสนุนเยาวชนรุ่นใหม่ร่วมสืบสานและอนุรักษ์ศิลปะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทยต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 เพื่อชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมทุนการศึกษารวมกว่า 1 ล้านบาท โดยโรงเรียนวัดน้ำพุ (สำนักงานสลากกินแบ่งสงเคราะห์ 54) จังหวัดราชบุรี คว้าแชมป์ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นเป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน และโรงเรียนพะตงวิทยามูลนิธิ จังหวัดสงขลา คว้าแชมป์ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและอาชีวศึกษา
กลุ่มตรีเพชร โดย มร. โทชิอากิ มาเอคาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวว่า “การจัดการแข่งขัน “นาฏมวยไทยอีซูซุ” เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมในโครงการ “รักชาติ…รักษ์มวยไทย” โดยได้เริ่มขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2553 ในโอกาสครบรอบ 20 ปี “ศึกอีซูซุคัพ” และได้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนไทยอนุรักษ์ มวยไทย ซึ่งเป็นศิลปะการป้องกันตัวที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย โดยการนำลีลาแม่ไม้มวยไทยมาประยุกต์เป็นการออกกำลังกายให้เข้าจังหวะเพลงอย่างพร้อมเพรียงและสวยงาม อีกทั้ง ยังเป็นการสนับสนุนให้วัยรุ่นยุคใหม่ได้แสดงออกอย่างสร้างสรรค์และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์อีกด้วย ซึ่งการแข่งขันในปีนี้มีการจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมและผู้ชมทั้งในรอบคัดเลือกและรอบชิงชนะเลิศ มีการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้างาน และสวมหน้ากากอนามัยตลอดการชมการแข่งขันตามมาตรการด้านสุขอนามัยเพื่อให้สอดคล้องกับยุค New Normal ถึงแม้ว่าจำนวนกองเชียร์จะลดลงไป แต่เยาวชนทุกทีมต่างแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจและความสามารถด้านนาฏมวยไทยได้อย่างน่าประทับใจ”
สำหรับการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศนั้น มีทีมเยาวชนที่ผ่านการคัดเลือกในระดับภูมิภาค 11 ทีม จากระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 6 ทีม และระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและอาชีวศึกษา 5 ทีม เข้าร่วมประชันฝีไม้ลายมือกัน โดยแต่ละทีมต่างนำเสนอการแสดงชุดพิเศษซึ่งไม่เพียง โดดเด่นในด้านชั้นเชิงมวยไทยเท่านั้น แต่ยังผสมผสานความลงตัวด้วยดนตรีและความคิดสร้างสรรค์ที่สอดแทรกวัฒนธรรม ประเพณี และความรักในผืนแผ่นดินเกิดได้อย่างตระการตา
โดยในปีนี้ทีมจากโรงเรียนวัดน้ำพุ (สำนักงานสลากกินแบ่งสงเคราะห์ 54) จังหวัดราชบุรี แชมป์เก่า 2 สมัย มาพร้อมการแสดงในชื่อชุด “ตำรับตับจาก” ที่นำเสนอเรื่องราวของ มวยตับจาก ซึ่งเป็นกีฬาพื้นบ้านของภาคตะวันออกที่ปัจจุบันเริ่มสูญหายไปตามกาลเวลา นำมาถ่ายทอดในรูปแบบการออกลีลามวยไทย หมัด เท้า เข่า ศอก ได้อย่างครบถ้วนและดุดันพร้อมผสมผสานกับดนตรีได้อย่างลงตัว สร้างความประทับใจให้กับกรรมการจนคว้าแชมป์ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน โดยตัวแทนจากโรงเรียนวัดน้ำพุ (สำนักงานสลากกินแบ่งสงเคราะห์ 54) จังหวัดราชบุรี เผยว่า “พวกเรารู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างมากที่ได้ครองแชมป์ระดับมัธยมต้นถึง 3 ปีซ้อน เพราะว่าเราทุกคนซ้อมกันอย่างหนัก และนำคำแนะนำของกรรมการในปีก่อน ๆ มาแก้ไขข้อบกพร่อง ปรับแต่งการแสดงให้ดียิ่งขึ้น สำหรับคนที่สนใจ…เรียนนาฏมวยไทยก็เท่ได้นะครับ”
ด้านการแข่งขันระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและอาชีวศึกษาก็ตระการตาไม่แพ้กัน ในท้ายที่สุดการแสดงชื่อชุด “มุสิกะวิฬาร์มหายุทธ์” จากโรงเรียนพะตงวิทยามูลนิธิ จังหวัดสงขลา คว้าแชมป์ไปครอง “เป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของทีมเราค่ะ เพราะกว่าที่เราจะได้แชมป์ครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ก่อนหน้านี้ทีมเราเข้ารอบชิงชนะเลิศด้วยกันมา 8 ปี และปีนี้เราก็ได้แชมป์มาครองเป็นครั้งที่ 2 ค่ะ ขอเชิญชวนให้เยาวชนรุ่นใหม่เข้าร่วมแข่งขันนาฏมวยไทยอีซูซุและช่วยกันรักษาศิลปะวัฒนธรรมไทยให้ยั่งยืนต่อไปค่ะ”
แชมป์ “นาฏมวยไทยอีซูซุ” ระดับประเทศได้รับถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และทุนการศึกษา ระดับละ 300,000 บาท ส่วนรองชนะเลิศอันดับ 1 และ 2 รับทุนการศึกษาระดับละ 100,0000 บาท 50,000 บาท ตามลำดับ พร้อมโล่เกียรติยศ และทีมอื่น ๆ ที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศจะได้รับทุนการศึกษาทีมละ 15,000 บาท รวมมูลค่ารางวัลตลอดการแข่งขันทั้งสิ้นกว่า 1 ล้านบาท
ผลการแข่งขันระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
• รางวัลชนะเลิศ : โรงเรียนวัดน้ำพุ (สำนักงานสลากกินแบ่งสงเคราะห์ 54) จังหวัดราชบุรี
รับถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และทุนการศึกษา มูลค่า 300,000 บาท
• รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 : โรงเรียนมาบตะโกพิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา
รับโล่เกียรติยศ และทุนการศึกษา 100,000 บาท
• รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 : โรงเรียนเทพบดินทร์วิทยาเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
รับโล่เกียรติยศ และทุนการศึกษา 50,000 บาท
ผลการแข่งขันระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
• รางวัลชนะเลิศ : โรงเรียนพะตงวิทยามูลนิธิ จังหวัดสงขลา
รับถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และทุนการศึกษา มูลค่า 300,000 บาท
• รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 : วิทยาลัยเทคนิคราชบุรี จังหวัดราชบุรี
รับโล่เกียรติยศ และทุนการศึกษา 100,000 บาท
• รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 : โรงเรียนหนองพอกวิทยาลัย จังหวัดร้อยเอ็ด
รับโล่เกียรติยศ และทุนการศึกษา 50,000 บาท