ฮอนด้าตอกย้ำความเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งในประเทศไทย
ชูจุดเด่นด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย พร้อมเทคโนโลยี xEV และนวัตกรรมการขับเคลื่อนใหม่ตอบสนองทุกรูปแบบการใช้ชีวิตอย่างลงตัว
ฮอนด้า โดย บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด ผนึกกำลังจัดแสดงไลน์อัปทุกผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ฮอนด้าในประเทศไทย ทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เครื่องยนต์อเนกประสงค์ พร้อมเทคโนโลยีการขับเคลื่อนใหม่ ในงาน Motor Show 2024 ตอกย้ำความเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งในประเทศไทย โดยภายในบูทมีการแบ่งโซนจัดแสดงตามกลุ่มผลิตภัณฑ์ของฮอนด้าเพื่อความสะดวกในการเข้าชม เริ่มต้น
ที่โซนแรก Product Zone ในส่วนของรถยนต์ นำโดย ฮอนด้า อี:เอ็น1 (Honda e:N1) ยนตรกรรมไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของฮอนด้าที่ผลิตในประเทศไทย พร้อมเปิดให้ลูกค้าเช่าใช้ผ่านบริษัทรถเช่าชั้นนำ* และยนตรกรรมฟูลไฮบริด e:HEVในหลากหลายเซกเมนต์
ในส่วนของรถจักรยานยนต์ นำโดย ‘New Honda Giorno+ Donald Duck Special Edition’รถเอ.ที.สไตล์ไฮแฟชั่น และ ‘Honda Dax 1978 Special Custom Edition’ จาก CUB House รวมถึงรถบิ๊กไบค์คลาส 650 ซีซี ที่มาพร้อม Honda E-Clutch Technology และโมเดลที่น่าสนใจอีกมากมาย ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่แตกต่าง รวมถึงเครื่องยนต์เรือรุ่นใหม่ของฮอนด้า โซนต่อมาLifestyle Zone เป็นโชว์เคสผลิตภัณฑ์ฮอนด้าที่สะท้อนไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตได้อย่างครบวงจรทั้ง รถยนต์อเนกประสงค์ SUV รถจักรยานยนต์สไตล์เทรล และเรือสันทนาการ และโซนสุดท้าย Mobility Zone ซึ่งจัดแสดงUNI-ONE อุปกรณ์เคลื่อนที่ส่วนบุคคลแบบแฮนด์ฟรี ที่ผู้ใช้งานสามารถบังคับทิศทางได้ง่าย ๆ โดยการเปลี่ยนถ่ายน้ำหนักตัวขณะนั่งโดยไม่ต้องใช้มือ และMotocompacto สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ที่สามารถพับเก็บและพกพาได้ ลูกค้าที่สนใจสามารถเข้าชมและสัมผัสประสบการณ์ได้ที่บูทฮอนด้า (A23) ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์โชว์ 2024 อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม – 7 เมษายน 2567 โดยมาพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับภายในงานฯ และโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ
นายฮิเดโอะ คาวาซากะ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ไว้วางใจและสนับสนุนรถยนต์กลุ่ม e:HEV ทำให้ฮอนด้าสามารถครองอันดับ 1 ในกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า (xEV) ในประเทศไทยได้อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV เป็นเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับการใช้งานจริงในปัจจุบัน ด้วยการผสานพลังขับเคลื่อนหลักจากมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้ขึ้นชื่อเรื่องการประหยัดน้ำมันและด้วยการเติมน้ำมันหนึ่งถังก็สามารถขับไปได้ในระยะทางที่ไกลกว่า มีให้เลือกในหลากหลายเซกเมนต์
จากความสำเร็จของยนตรกรรมในกลุ่ม e:HEV ที่ผ่านมา ในวันนี้ฮอนด้าพร้อมที่จะได้นำเสนออีกหนึ่งก้าวสำคัญใน
กลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า (xEV) ด้วยการแนะนำ Honda e:N1 ยนตรกรรมไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของฮอนด้าที่ผลิตในประเทศไทย
ที่พร้อมให้ลูกค้าทุกท่านได้สัมผัสได้อย่างไร้กังวลด้วยการเช่าใช้ผ่านบริษัทรถเช่าชั้นนำ”
- ภายในบูทฮอนด้า มีการแบ่งโซนจัดแสดงผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ดังนี้
Product Zone มีการจัดแสดงยนตรกรรมในหลากหลายเซกเมนต์ ที่ครอบคลุมทุกไลน์อัปของระบบส่งกำลัง นำโดย
<ไลน์อัปยนตรกรรมไฟฟ้า 100%>
- ฮอนด้า อี:เอ็น 1 (Honda e:N1) ยนตรกรรมเอสยูวีไฟฟ้า 100% รุ่นแรกที่ผลิตในประเทศไทย มาพร้อมขุมพลังไฟฟ้าตอบสนองได้อย่างรวดเร็วทันใจจากการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ 3-in-1 (Motor, Power Drive Unit และ Gearbox) ให้กำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์ หรือ 204 แรงม้า (PS) มอบสมรรถนะที่แรงเร้าใจด้วยแรงบิดสูงสุด 310 นิวตัน-เมตร ที่ผสานการทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ความจุ 68.8 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) ส่งผลให้สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุดถึง 500 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC) ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง โดดเด่นด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ บ่งบอกความเป็นยนตรกรรมไฟฟ้าด้วยโลโก้ H Mark ใหม่ สไตล์พรีเมียมมินิมอล ผสมผสานกับการตกแต่งภายในระดับพรีเมียม ห้องโดยสารกว้างสะดวกสบายพร้อมไฟสร้างบรรยากาศภายในสีฟ้า ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายในแบบยนตรกรรมเอสยูวีโดยมาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) รวมถึงเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยอันล้ำสมัยที่ครบครัน พร้อมเปิดให้ลูกค้าสัมผัสประสบการณ์การขับเคลื่อนขุมพลังไฟฟ้า 100% ด้วยการเช่าใช้ ผ่านบริษัทรถเช่า ชั้นนำ อาทิ บริษัท กรุงไทยคาร์เร้นท์ แอนด์ ลีส จำกัด (มหาชน) บริษัท ซูมิโตโม มิตซุย ออโต้ ลิสซิ่ง แอนด์ เซอร์วิส (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัท ไทย วี.พี.คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัท ไทยโอริกซ์ลีสซิ่ง จำกัด บริษัท พารากอน คาร์ เรนทัล จำกัด บริษัท ไพร์ม คาร์เร้นท์ จำกัด บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) บริษัท มาสเตอร์ คาร์เร้นเทิล จำกัด บริษัท เวิลด์คลาส เรนท์ อะ คาร์ จำกัด บริษัท เวิลด์เบสท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
บริษัท เอแอลดี เอ็มเอชซี โมบิลิตี้ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ช.พัฒนาคาร์เรนท์ จำกัด โดยรายละเอียดและเงื่อนไขการเช่าเป็นไปตามที่บริษัทรถเช่ากำหนด
<ไลน์อัปยนตรกรรมฟูลไฮบริด e:HEV>
พร้อมตอบสนองทุกการขับขี่ ผสานพลังขับเคลื่อนหลักจากมอเตอร์ไฟฟ้า ประหยัดเวลาและประหยัดน้ำมันในทุกการเดินทาง มั่นใจด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ที่ติดตั้งในยนตรกรรม e:HEV ทุกรุ่น
- กลุ่ม SUV นำโดย ฮอนด้า ซีอาร์-วี อี:เอชอีวี ยนตรกรรมพรีเมียมเอสยูวี โดยล่าสุดได้รับรางวัล รถยอดเยี่ยมประเภทไฮบริดเอสยูวีขนาดกลาง ในงานCar of the Year 2024
มาพร้อมเทคโนโลยีการขับเคลื่อน Full Hybrid ที่ แรง ทรงพลัง และประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 20.8 กม./ลิตร (รุ่น e:HEV ES) ครบครันด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกสบายและความปลอดภัยระดับพรีเมียมพร้อมเติมเต็มทุกความอเนกประสงค์และตอบโจทย์การใช้ชีวิตทั้งไลฟ์สไตล์ในเมืองและนอกเมืองอย่างลงตัว ในราคาเริ่มต้นที่ 1,589,000 บาท (รุ่น e:HEV ES)
- กลุ่ม City Car นำโดย ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ใหม่ ซิตี้คาร์ยอดนิยม ซึ่งล่าสุดได้รับรางวัล
รถยอดเยี่ยมประเภทไฮบริดซีดาน เครื่องยนต์ไม่เกิน 1,500 ซีซี ในงาน Car of the Year 2024 ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ ขับสนุก แรง เร้าใจ และประหยัดน้ำมันสูงสุด 27.8 กิโลเมตร/ลิตร มอบความคุ้มค่าด้วยฟังก์ชันและเทคโนโลยีอันครบครัน ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง
769,000 บาท (รุ่น e:HEV SV) พร้อมด้วย ซิตี้ แฮทช์แบ็ก อี:เอชอีวี ใหม่ อีกหนึ่งทางเลือกของรถซิตี้คาร์แบบ 5 ประตู มอบความคุ้มค่าด้วยเอกลักษณ์ด้านความอเนกประสงค์ที่ลูกค้าชื่นชอบ ให้ลูกค้าสัมผัสกับเทคโนโลยี e:HEV จากฮอนด้าได้ง่ายขึ้น ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 729,000 บาท
(รุ่น e:HEV SV)
<ไลน์อัปยนตรกรรมเทอร์โบ>
- ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์ (Civic Type R) ที่สุดแห่งยนตรกรรมความสปอร์ตระดับตำนาน สะท้อนจิตวิญญาณแห่งความท้าทาย แรง เร้าใจด้วยเครื่องยนต์ Direct Injection DOHC VTEC TURBO ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ที่ได้รับการพัฒนามาสำหรับ ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์ โดยเฉพาะ มอบกำลังสูงสุด 320 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร ที่ทำงานร่วมกับเกียร์ธรรมดาแบบ 6 สปีดสัมผัสความรู้สึกของอัตราเร่งได้ทันที และให้อัตราเร่งต่อเนื่องไปจนถึงช่วงความเร็วรอบสูงเติมความสนุกในทุกสถานการณ์การขับขี่ มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING และเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่อันล้ำสมัยอื่นๆ โดยมีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีดำคริสตัล (มุก) สีเทาโซนิค (มุก) สีแดงแรลลี่ สีขาวแชมเปียนชิป และสีน้ำเงินเรซซิง (มุก) พร้อมจำหน่ายในราคา 3,990,000 บาท
Mobility Zone โซนจัดแสดงผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีเพื่อการขับเคลื่อนแห่งอนาคตที่สร้างสรรค์ (Create) ขึ้นมาเพื่อพาผู้คน “ก้าวข้าม (Transcend) ขีดจำกัดต่าง ๆ เช่น เวลาและสถานที่” และ “เพิ่มพูน (Augment) ศักยภาพและโอกาสของพวกเขา”โดยผลิตภัณฑ์ที่นำมาจัดแสดง ประกอบด้วย
<ผลิตภัณฑ์ที่พาผู้คนก้าวข้ามข้อจำกัดเรื่องเวลาและสถานที่>
- Motocompacto สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารูปแบบใหม่ ที่ได้รับการออกแบบมาให้มีขนาดกะทัดรัด ด้วยน้ำหนักเพียง 18.73 กิโลกรัม ทำให้สามารถพับเก็บและพกพาได้ อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งานด้วยฟังก์ชันการเชื่อมต่อของ Motocompacto ที่ช่วยคาดการณ์การใช้พลังงานของแบตเตอรี่จากจุดเริ่มต้นไปยังจุดหมายปลายทางได้ ลดความกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดขณะเดินทาง ช่วยให้ผู้คนก้าวข้ามข้อจำกัดเรื่องเวลาและสถานที่ แม้ว่าตัวรถจะมีน้ำหนักเบาและกะทัดรัด แต่ Motocompacto ก็สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุดถึง 12 ไมล์ (ระยะทางประมาณ 19 กม.) เมื่อชาร์จเต็ม และสามารถทำความเร็วสูงสุด 15 ไมล์ต่อชั่วโมง (24 กม./ชม.)
<ผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มพูนศักยภาพและโอกาสของผู้คน>
- UNI-ONE อุปกรณ์เคลื่อนที่ส่วนบุคคลแบบแฮนด์ฟรี ที่ผู้ใช้งานสามารถบังคับทิศทางได้ง่าย ๆ โดยการเปลี่ยนถ่ายน้ำหนักตัวขณะนั่งโดยไม่ต้องใช้มือ โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีควบคุมการทรงตัวที่พัฒนาขึ้นจากการวิจัยหุ่นยนต์ของฮอนด้า และระบบล้อขับเคลื่อน Omni Traction Drive ของฮอนด้า ซึ่งเป็นกลไกของฮอนด้าที่ช่วยให้สามารถเคลื่อนที่ได้รอบทิศทางอย่างเป็นธรรมชาติ โดยผู้ใช้งานสามารถบังคับทิศทางได้อย่างสะดวกง่ายดาย เพียงโน้มตัวในขณะนั่ง และเคลื่อนตัวราวกับว่ากำลังเดิน ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ใช้ที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหวสามารถขยับและเคลื่อนที่ได้
โดยแต่ละรุ่นมาพร้อมข้อเสนอพิเศษ*** กับ ‘ฮอนด้าโปรตามใจ’ ไม่ว่าจะเป็น ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 0% พร้อม ฮอนด้า เอ็กซ์คลูซีฟ แคร์ (Honda Exclusive Care) หรือทางเลือก ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส** ดาวน์เริ่มต้นน้อย ผ่อนต่อเดือนต่ำ เสริมความมั่นใจยิ่งขึ้นสำหรับรุ่น e:HEV ด้วยการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง สำหรับลูกค้าที่จองตั้งแต่ 1 มีนาคม 2567 – 8 เมษายน 2567 และรับรถตั้งแต่ 1 มีนาคม 2567 – 30 เมษายน 2567 ลูกค้าที่สนใจสามารถเยี่ยมชมบูทฮอนด้า (A23) ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2024 ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม – 7 เมษายน 2567