เกรท วอลล์ มอเตอร์ จัดงาน “HAVAL: DRIVE TO THE FUTURE” ฉลองครบรอบ 1 ปี HAVAL H6 ในไทย
พร้อมเดินหน้าประกาศกลยุทธ์ 6S สร้างความเชื่อมั่นด้านการขายและบริการ ตอกย้ำการก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าของไทย
เกรทวอลล์มอเตอร์ฉลองครบรอบ 1 ปีของการเปิดตัว HAVAL H6 ในประเทศไทยจัดงาน“HAVAL: DRIVE TO THE FUTURE”แทนคำขอบคุณลูกค้าที่ให้เสียงตอบรับอย่างล้นหลามพิสูจน์ได้จากยอดขายมากกว่า 4,859 คันนับตั้งแต่เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อปลายเดือนมิถุนายนปี 2564 จนถึงปลายเดือนมิถุนายน 2565 เดินหน้าประกาศกลยุทธ์ 6S เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าสะท้อนภาพลักษณ์ในฐานะบริษัทเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลกที่มุ่งสร้างประสบการณ์การบริการที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (User-centric)
ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา All New HAVAL H6 Hybrid SUV ได้เข้ามาสร้างความคึกคักให้กับวงการยานยนต์ประเทศไทยอย่างต่อเนื่องด้วยฟังก์ชั่นอัจฉริยะรอบด้านสมรรถนะของรถยนต์ระบบการช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัยที่เหนือชั้นแพลตฟอร์มโมดูล่าร์อัจฉริยะอย่าง L.E.M.O.N. ตลอดจนราคาที่จับต้องได้ส่งผลให้ All New HAVAL H6 Hybrid SUV สามารถชนะใจผู้บริโภคชาวไทยครองยอดขายอันดับ 1 ในกลุ่มรถยนต์คอมแพคเอสยูวีติดต่อกันถึง 3 เดือนซ้อนตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงตุลาคมปีที่ผ่านมาอีกทั้งยังสามารถครองยอดขายเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มรถยนต์คอมแพคเอสยูวีได้ถึง 6 เดือนซ้อนตั้งแต่ต้นปี 2565 (มกราคม – มิถุนายน) โดย All New HAVAL H6 Hybrid SUV ยังนับเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่ผลิตโดยโรงงานเกรทวอลล์มอเตอร์แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จังหวัดระยองซึ่งเป็นโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) เต็มรูปแบบแห่งที่ 2 นอกประเทศจีนอีกด้วยปัจจุบันเกรทวอลล์มอเตอร์ได้ส่งมอบ All New HAVAL H6 Hybrid SUV ให้กับลูกค้าทั่วประเทศไปแล้วเป็นจำนวนทั้งสิ้น 4,859 คัน
นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย)กล่าวว่า “HAVAL H6 ถือเป็นรถยนต์รุ่นที่ประสบความสำเร็จของเกรทวอลล์มอเตอร์ตั้งแต่มีการเปิดตัวสู่ตลาดในประเทศจีนจวบจนถึงปัจจุบันมียอดขายสะสมกว่า 3.5 ล้านคันและสร้างสถิติรถเอสยูวีที่มียอดขายรายเดือนสูงสุดในเซ็กเมนต์ 9 ปีติดต่อกันสำหรับประเทศไทยนับตั้งแต่วันแรกที่ All New HAVAL H6 Hybrid SUV ได้เข้ามาโลดแล่นอยู่ในตลาดจนถึงปัจจุบันเกรทวอลล์มอเตอร์ได้ต้อนรับสมาชิกชาวไทยเข้าสู่ครอบครัว HAVAL H6 แล้วเกือบ 5,000 ครอบครัวต้องขอขอบคุณลูกค้าชาวไทยทุกท่านสำหรับความไว้วางใจและความสนับสนุนที่มอบให้กับเกรทวอลล์มอเตอร์ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา HAVAL H6 ครองยอดขายอันดับหนึ่งในตลาดคอมแพคเอสยูวีอย่างต่อเนื่องโดยในปี 2565 เรายังคงรักษาแชมป์ไว้ได้อย่างแข็งแกร่งโดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดโดยเฉลี่ยต่อเดือนกว่า 30% ความสำเร็จของ HAVAL H6 ในประเทศไทยสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความตั้งใจของเกรทวอลล์มอเตอร์ได้เป็นอย่างดี”
“เกรทวอลล์มอเตอร์จะยังเดินหน้าดำเนินธุรกิจภายใต้ 3 กลยุทธ์หลักได้แก่ 1) การเป็นผู้นำด้านยานยนต์พลังงานไฟฟ้ากับ Mission “9 in 3” ที่จะนำรถยนต์รุ่นต่างๆเข้ามาทำการตลาดในประเทศไทยอย่างน้อย 9 รุ่นในระยะเวลา 3 ปี 2) Consumer Voice Focus การรับฟังเสียงของผู้บริโภคและ 3) New User Experience การสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าโดยนำเสียงของผู้บริโภคและคำแนะนำต่างๆมาออกแบบเป็นประสบการณ์ใหม่ๆให้กับผู้บริโภคควบคู่ไปกับกลยุทธ์ “4 in 1” ที่มุ่งดำเนินงานผ่านแพลตฟอร์มออฟไลน์และออนไลน์ผสาน GWM Experience Center, GWM Direct Store, GWM Partner Store และ GWM app ไว้ด้วยกันและเพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์หลักดังกล่าวเกรทวอลล์มอเตอร์ยินดีเป็นอย่างยิ่งในการแนะนำกลยุทธ์ 6S ซึ่งให้ความสำคัญกับการการขายและการบริการเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและยกระดับประสบการณ์ลูกค้าควบคู่ไปกับการเพิ่มจำนวนเครือข่ายการให้บริการเพื่อเป็นอีกหนึ่งพลังในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืนตอกย้ำการก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยต่อไป”
กลยุทธ์ 6Sประกอบไปด้วย Sales, Service, Spare parts, Survey, Social & Share ที่สะท้อนรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจนของเกรทวอลล์มอเตอร์ที่เน้นการดำเนินงานแพลตฟอร์มออนไลน์และออฟไลน์และการรับฟังเสียงของผู้บริโภคโดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- บริการด้านการขายที่น่าประทับใจ (Sales): เกรทวอลล์มอเตอร์จะยังคงเชื่อมต่อประสบการณ์ลูกค้าการสื่อสารระหว่างแบรนด์กับผู้ใช้และการขายในรูปแบบ Online-to-Offline (O2O) ผ่าน GWM Application ทั้งการจองการทดลองขับการชำระเงินและการดูสถานะของรถที่สั่งซื้อควบคู่ไปกับการขยายเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในการเข้าถึงสินค้าและบริการยกระดับประสบการณ์การเลือกซื้อรถยนต์ด้วยนโยบายการกำหนดราคาเดียวเงื่อนไขเดียวทั่วประเทศในทุกช่องทาง (One Price Policy) พร้อมทั้งปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจของดีลเลอร์แบบเดิมให้เป็นผู้ให้บริการ (Service Provider) ตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นอย่างแท้จริง
- บริการหลังการขายที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ (Service): เกรทวอลล์มอเตอร์มุ่งมั่นที่จะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลให้ได้รับความสะดวกรวดเร็วและประหยัดเวลาโดยลูกค้าสามารถดูสถานะการให้บริการอนุมัติงานซ่อมชำระเงินตรวจสอบประวัติการรับบริการและข้อมูลการใช้จ่ายได้ทุกที่ทุกเวลาผ่าน GWM application ซึ่งแสดงถึงความโปร่งใสและความจริงใจในการให้บริการบริษัทยังได้นำเทคโนโลยีเข้ามายกระดับประสบการณ์ของลูกค้าไปอีกขั้นในการเชื่อมต่อประสบการณ์ระหว่าง Smart Vehicle กับ Smart Application Smart System และ Smart Device เพื่อสร้าง Smart Store ไม่ว่าจะเป็นการนำระบบ License plate recognition system เข้ามาทำงานร่วมกับระบบ Dealer management system ทำให้ศูนย์บริการทำความรู้จักกับลูกค้าได้ตั้งแต่ก่อนพบหน้านำระบบ Dealer assistant application เข้ามาใช้ควบคู่กับอุปกรณ์ Service tablet เพื่อลดขั้นตอนและระยะเวลาในการให้บริการยิ่งไปกว่านั้นยังได้พัฒนาและติดตั้ง Vehicle status board ในห้องรับรองเพื่อให้ลูกค้าสามารถติดตามสถานะการซ่อมอีกทั้งยังสามารถทราบตำแหน่งรถยนต์ที่กำลังรับบริการอยู่ได้ตลอดเวลาผ่านกล้อง CCTV อีกด้วย
- การบริหารจัดการอะไหล่อย่างมีประสิทธิภาพ (Spare parts): ในปีนี้เกรทวอลล์มอเตอร์ได้ขยายพื้นที่คลังอะไหล่เพื่อรองรับปริมาณอะไหล่ให้พร้อมกับปริมาณรถยนต์ที่เพิ่มมากขึ้นรวมถึงเตรียมพร้อมสำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ๆที่จะเปิดตัวในอนาคตโดยเกรทวอลล์มอเตอร์จะเพิ่มปริมาณการจัดเก็บอะไหล่จากเดิมประมาณ 3,700 SKU เป็น 5,300 SKU หรือเพิ่มขึ้นกว่า 40% ลูกค้าทุกคนสามารถมั่นใจและอุ่นใจได้ว่าบริษัทจะดำเนินงานบริหารจัดการอะไหล่อย่างมีประสิทธิภาพและมีการสั่งซื้ออะไหล่ตามจำนวนและระยะเวลาที่เหมาะสมโดยบริษัทสามารถจัดส่งอะไหล่ในเขตกรุงเทพและปริมณฑลได้ภายในวันเดียวกันและจัดส่งอะไหล่ไปยังศูนย์บริการทั่วประเทศได้ภายใน 2 วันทำการในอนาคตศูนย์บริการของเกรทวอลล์มอเตอร์จะเพิ่มประสิทธิภาพในการให้ข้อมูลแก่ลูกค้าให้สามารถตรวจสอบจำนวนอะไหล่ได้แบบเรียลไทม์
- การศึกษาและรับฟังเสียงตอบรับของผู้บริโภค (Survey): เกรทวอลล์มอเตอร์ดำเนินธุรกิจโดยรับฟังเสียงของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องเพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์และการให้บริการให้ดียิ่งขึ้นอยู่เสมอเช่นการสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และนำมาจัดแสดงตามคำเรียกร้องของผู้บริโภคในงานจัดแสดงรถยนต์การจัดเตรียมทีมงานคอยอำนวยความสะดวกลูกค้าบนโซเชียลมีเดียตั้งแต่ 7.00-24.00 น. ตลอด 7 วันการรับฟังและนำปัญหาของลูกค้ามาแก้ไขปัญหาและพัฒนาการบริการการจัดกิจกรรม Let’s Talk by GWM ให้ลูกค้าร่วมแบ่งปันประสบการณ์การขับขี่และมุมมองในฐานะผู้บริโภคกับผู้บริหารระดับสูงเพื่อนำความคิดเห็นและข้อเสนอแนะไปพัฒนาการดำเนินธุรกิจในมิติต่างๆอย่างครอบคลุมนอกจากนี้เกรทวอลล์มอเตอร์ยังจัดตั้ง User Committee กลุ่มตัวแทนลูกค้าที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานรวบรวมเสียงของผู้ใช้และนำเสนอข้อคิดเห็นรวมถึงจัดกิจกรรมต่างๆร่วมกัน
- การสร้างสรรค์กิจกรรมให้ลูกค้ามีส่วนร่วม (Social & Share): เกรทวอลล์มอเตอร์ให้ความสำคัญกับการสร้างสังคมผู้ใช้ที่แข็งแกร่งรวมถึงแบ่งปันประสบการณ์ที่ดีระหว่างกันซึ่งจะทำให้แบรนด์และลูกค้าเดินเคียงข้างและเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืนผ่านกิจกรรม 2 ส่วนได้แก่
- GWM application ซึ่งมีผู้ใช้รวมทั้งสิ้นกว่า 100,000 ท่านและมีผู้เข้ามาใช้งานมากกว่า 10,000 คนต่อวันเพื่อแบ่งปันประสบการณ์สอบถามข้อมูลแชร์สาระน่ารู้ระหว่างกันและสะสมคะแนนเพื่อแลกรับสินค้าและบริการต่างๆ
- การจัดกิจกรรมออฟไลน์ระหว่างกลุ่มผู้ใช้เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์และเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ได้พบปะสังสรรค์รวมถึงมีประสบการณ์ที่ดีกับผลิตภัณฑ์และแบรนด์ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสร้างสังคมผู้ใช้ที่แข็งแกร่งและยั่งยืนตามหลักการดำเนินธุรกิจที่เน้นผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง (User-Centric) โดยในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาเกรทวอลล์มอเตอร์ได้จัดกิจกรรมที่ GWM Experience Center มากกว่า 160 กิจกรรมมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมมากกว่า 4,600 คนและมีผู้เข้าเยี่ยมชมกว่า 134,000 คนนอกจากนั้นเกรทวอลล์มอเตอร์ยังได้เริ่มให้บริการด้านสถานที่แก่เจ้าของรถยนต์ GWM ทุกคนโดยพวกเขาสามารถเข้ามาใช้บริการพื้นที่ของ GWM Experience Center ไอคอนสยามเพื่อจัดกิจกรรมส่วนตัวได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายและจะขยายบริการให้ครอบคลุม GWM Store ทั่วประเทศต่อไป
ปัจจุบันเกรทวอลล์มอเตอร์มี GWM Store ทั้งรูปแบบที่เป็นเครือข่ายการขายและบริการหลังการขายและมีเป้าหมายที่จะเปิดตัว GWM Store ทั้งรูปแบบ GWM Direct Store และ GWM Partner Store ให้ครบ 80 แห่งภายในปีนี้โดยณสิ้นไตรมาสที่สองเกรทวอลล์มอเตอร์มีจำนวนเครือข่ายทั้งสิ้น 49 แห่งและในไตรมาสที่สามวางแผนว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 63 แห่งจนจบสิ้นปี 2565 จะขยายให้ครบ 80 แห่งทั่วประเทศอย่างแน่นอนนอกจากนี้บริษัทยังมีเป้าหมายในการขยายสถานีชาร์จประจุไฟฟ้าหรือ G-Charge ให้ได้ 55 แห่งภายในสิ้นปี 2565 นี้ โดยจะแบ่งเป็นภายในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล 70% และต่างจังหวัด 30% ซึ่งสถานีชาร์จทั้งหมดของบริษัทจะติดตั้งเครื่องอัดประจุไฟฟ้าแบบ DC Fast Charge กำลังสูงเริ่มต้นที่ 120 kW และมีรูปแบบหัวชาร์จแบบ CCS2 ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล G-Charge จึงถือเป็นแพลตฟอร์มให้บริการสถานีชาร์จที่ครบวงจรและทันสมัยมากที่สุดแพลตฟอร์มหนึ่งในประเทศไทยทั้งความสามารถในการจ่ายไฟกำลังสูงและการเข้าถึงบริการได้ตลอด 24 ชั่วโมงและทุกวัน สามารถใช้บริการผ่าน GWM application ด้วยฟังก์ชั่นการค้นหาสถานีนำทางการจองและชำระเงินใน App เดียว
นอกจากนี้เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ทุกเส้นทางเกรทวอลล์มอเตอร์ได้มีการรวบรวมสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่มีอยู่ในประเทศมากกว่า 500 แห่งมาอยู่ในแผนที่การชาร์จใน GWM app ครอบคลุมสถานีชาร์จสาธารณะของไทยมากกว่า 55% และจะเร่งดำเนินการเพื่อรวบรวมสถานีชาร์จให้ครอบคลุม 80% ภายในปีนี้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคชาวไทยทุกคนที่ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของเกรทวอลล์มอเตอร์ในการผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้าให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและเป็นรูปธรรม
เกรทวอลล์มอเตอร์ในฐานะ “บริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีระดับโลก” (Global Intelligent Technology Company) จะยังคงมุ่งมั่นรับฟังเสียงผู้บริโภคเพื่อสร้างสรรค์และพัฒนาผลิตภัณฑ์บริการที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการยึดถือผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางเพื่อส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมตอบโจทย์ทุกความต้องการและเคียงข้างเติบโตไปด้วยกันกับลูกค้าพันธมิตรทางธุรกิจและสังคมเพื่อเป็นอีกหนึ่งกำลังในการขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและเศรษฐกิจไทยให้ก้าวต่อไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน