เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เปิดตัว New Continental GT/C Mulliner และ Flying Spur Mulliner

By / 2 months ago / New cars / No Comments
เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เปิดตัว New Continental GT/C Mulliner และ Flying Spur Mulliner

ซูเปอร์คาร์เรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดที่หรูหราและทรงสมรรถนะที่สุดของแบรนด์

เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เปิดตัว New Continental GT, New Continental GTC, และ New Flying Spur รุ่นย่อย Mulliner ซูเปอร์คาร์เรือธงที่หรูหราและทรงสมรรถนะที่สุดของแบรนด์กับขุมพลังแบบ Ultra Performance Hybrid ซึ่งเป็นการต่อยอดจากรุ่น Speed ที่เน้นสมรรถนะด้วยการเพิ่มตัวเลือกและรายละเอียดของความหรูหรา รุ่น Mulliner นำเสนอความแตกต่างด้านรูปลักษณ์ที่โดดเด่นด้านงานฝีมือสั่งทำพิเศษ คุณสมบัติด้าน Wellness ที่เพิ่มขึ้น และเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนา อัครยนตรกรรม รุ่น Mulliner จึงถือเป็นรุ่นเรือธงในบรรดาอัครยนตรกรรมทุกรุ่นของเบนท์ลีย์ในปัจจุบัน

สำหรับการเปิดรับคำสั่งจอง เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย มอบข้อเสนอที่ดีที่สุดสำหรับการสั่งจองรถยนต์เบนท์ลีย์รุ่น New Flying Spur Mulliner ราคาเริ่มต้นที่ 27.6 ล้านบาท New Continental GT Mulliner ราคาเริ่มต้นที่ 30 ล้านบาท และ New Continental GTC Mulliner ราคาเริ่มต้นที่ 32.8 ล้านบาท พร้อมรับเอกสิทธิ์การบริการหลังการขายมาตรฐานโรงงานผู้ผลิตด้วยการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดที่ ‘นานที่สุด’ ถึง 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) การรับประกันโดยโรงงานผู้ผลิตและบริการผู้ช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง (24-hour Bentley Roadside Assistance) นาน 3 ปีเต็ม พร้อมรับสิทธิ์การต่อการรับประกันโดยโรงงานผู้ผลิต (Bentley Extended Warranty) สูงสุด 4 ปี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด โทร. 080-925-9999

อัครยนตรกรรม รุ่น Mulliner มาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่หรูหราด้วยกระจังหน้าแบบ ‘Floating Diamond’ ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Mulliner พร้อมขอบโครเมียมและแถบโครเมียมตรงกลาง กระจังหน้าแบบโครเมียมส่วนล่าง แถบโครเมียมด้านข้างของตัวถัง ท่อไอเสียโครเมียม และการตกแต่งแบบโครเมียมที่เสริมด้วยฝาครอบกระจกมองข้างในเฉดสีเงินแบบซาติน พร้อมด้วยตัวเลือกเฉดสีดำ-เงาในแบบ Mulliner Blackline Specification นอกจากนี้ รุ่น Mulliner ยังมาพร้อมกับล้ออัลลอยด์ขนาด 22 นิ้วที่ออกแบบด้วยสองเฉดสี อันได้แก่ เฉดสีเทา Tungsten หรือเฉดสีดำ-เงา ซึ่งทั้งสองเฉดสีมากับพื้นผิวที่มัน-เงาและการตกแต่งด้วยดุมล้อโลโก้เบนท์ลีย์แบบ Mulliner

สำหรับรุ่น Continental GT Mulliner และ GTC Mulliner เจเนอเรชันที่ 4 โดดเด่นด้วยไฟหน้าเดี่ยวคู่พร้อมรีเฟลกเตอร์ ‘Cut Crystal’ แบบใหม่ที่ประณีตและโดดเด่น พร้อมด้วยโลโก้ Mulliner ที่ตกแต่งบริเวณด้านข้างตัวถังส่วนหน้า ในส่วนของรุ่น Flying Spur Mulliner งดงามด้วย Flying B ที่รังสรรค์ขึ้นด้วยโครเมียมหรือตัวเลือกเฉดสีดำ รวมถึงการตกแต่งด้วยโลโก้ Mulliner แบบใหม่บริเวณช่องระบายอากาศข้างตัวถัง พร้อมด้วยรายละเอียดลวดลายแบบเพชร 2 ชั้นที่สวยงาม

ไฟต้อนรับ Welcome Light และไฟ Coming Home มาพร้อมกับแอนิเมชันของโลโก้ Bentley Wings ซึ่งเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นของรุ่น Mulliner เช่นเดียวกับไฟท้ายสีแดงที่จะแตกต่างจากในรุ่น Speed

กาบบันไดแบบเรืองแสงและพรมปูพื้นแบบหนานุ่มจาก Mulliner ถูกนำมาตกแต่งภายในห้องโดยสารที่ล้ำสมัยพร้อมกับการนำเสนอการผสมผสาน 3 เฉดสีที่สั่งทำพิเศษจาก Mulliner พร้อมด้วยการเดินด้ายสีตัดกันและงานปัก Mulliner ที่เป็นเอกลักษณ์บนเบาะโดยสารที่เย็บด้วยมือและลวดลายรูพรุนรูปเพชรในแบบ Mulliner ที่ออกแบบใหม่ สำหรับ Continental GTC Mulliner ลวดลายการเย็บใหม่มีการนำมาใช้กับหลังคาผ้าใบ ซึ่งสามารถมองเห็นได้ในขณะที่หลังคาผ้าใบถูกพับลง คุณสมบัติใหม่ในรุ่น Mulliner ยังได้รวมถึงเบาะโดยสารแบบ Wellness ที่สามารถปรับท่าทางการนั่งและปรับอุณหภูมิแบบอัตโนมัติสำหรับเบาะโดยสารส่วนหน้าในรุ่น Continental GT/C และส่วนหลังในรุ่น Flying Spur ซึ่งจะช่วยลดความเมื่อยล้าและมอบความผ่อนคลายในขณะเดินทาง

แนวคิดการออกแบบ Mulliner ยังคงใช้แผงหน้าปัดผู้ขับขี่แบบ LED พร้อมกราฟิกแบบพิเศษเฉพาะรุ่น พร้อมด้วยจอแสดงผลแบบหมุนได้ Bentley Rotating Display แป้นเหยียบคันเร่งสไตล์สปอร์ต พวงมาลัยสามก้านดูโอโทนแบบปรับอุณหภูมิ และซันรูฟแบบพาโนรามิกในรุ่น Flying Spur และ Continental GT ซึ่งทั้งหมดจะมอบสัมผัสแห่งความหรูหราภายในห้องโดยสาร

รุ่น Mulliner มาพร้อมกุญแจหนังในกล่องบรรจุแบบทำมือที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของ Mulliner เข้ากับห้องโดยสารที่รังสรรค์ขึ้นด้วย 3 เฉดสี โดยกุญแจทั้งสองดอกบรรจุในกล่องสีเดียวกันที่ตกแต่งด้วยรูปแบบการเย็บแบบคอนทราสต์

สำหรับคุณสมบัติอื่นๆ ในรุ่น Mulliner ประกอบไปด้วย Touring Specification, Colour Specification, ไฟต้อนรับแบบแอนิเมชัน, ระบบไฟสร้างบรรยากาศ, และการตกแต่งด้วยวีเนียร์แบบ Grand Black และโลโก้ Mulliner ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกใช้วีเนียร์แบบอื่นๆ แทน Grand Black ได้

ความงดงามและความหรูหราที่รังสรรค์ขึ้นด้วยงานฝีมือ

การตกแต่งห้องโดยสารในรุ่น Mulliner ใหม่ ถือเป็นผลงานระดับปรมาจารย์ด้านงานฝีมือที่แสดงให้เห็นถึงความเอาใจใส่ในทุกรายละเอียดอย่างพิถีพิถัน โดยเฉดสีของหนังที่ออกแบบโดย Mulliner มาพร้อมกับตัวเลือกที่หลากหลายด้วยการเน้นการเพิ่มเฉดสีที่สามในรูปแบบของการเน้นเส้นสายการออกแบบที่โดดเด่น

ในรุ่น Mulliner ใหม่มีการติดตั้ง Comfort Seat Specification สำหรับเบาะโดยสารทั้ง 4 ที่นั่งของ Flying Spur Mulliner และสำหรับเบาะโดยสารส่วนหน้า 2 ที่นั่งในรุ่น Continental GT/C Mulliner โดยมีฟังก์ชัน Wellness อาทิ คุณสมบัติการปรับท่านั่งแบบอัตโนมัติ และคุณสมบัติการปรับอุณหภูมิของเบาะโดยสารเพื่อช่วยลดความเมื่อยล้าและให้ความรู้สึกผ่อนคลายในระหว่างการเดินทาง นอกจากนี้ ระบบปรับอากาศยังได้รับการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศไอออนไนเซอร์ ตัวกรองอนุภาคใหม่ และจอแสดงผลคุณภาพอากาศภายนอกและภายในห้องโดยสาร ซึ่งระบบนี้จะเชื่อมกับระบบนำทางด้วยดาวเทียมของรถยนต์เพื่อให้สามารถปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในห้องโดยสารได้อย่างเหมาะสมอย่างการหมุนเวียนอากาศในห้องโดยสารเมื่ออยู่ในอุโมงค์

พละกำลังและความละเอียดอ่อน

Continental GT Mulliner, Continental GT Convertible Mulliner, และ Flying Spur Mulliner ใหม่มาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์แบบ Ultra Performance Hybrid ใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ตัวเดียวกันกับรุ่น Speed ​​เครื่องยนต์รุ่นใหม่นี้ผสมผสานเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.0 ลิตรใหม่ที่สามารถผลิตพละกำลังได้กว่า 600 แรงม้า เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้า 190 แรงม้า มอบพละกำลังสูงสุด 782 แรงม้าด้วยแรงบิด 1,000 นิวตันเมตร (738 ปอนด์-ฟุต) เครื่องยนต์รุ่นใหม่นี้จึงมอบประสิทธิภาพสูงสุดและทำให้อัครยนตรกรรมรุ่นล่าสุดนี้โดดเด่นเหนือกว่าคู่แข่งด้วยแรงม้าที่มากขึ้นจากแรงบิดมหาศาล พร้อมด้วยอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และอัตราการบริโภคเชื้อเพลิงที่ต่ำลงอย่างมากเพียงหนึ่งในสิบเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์เบนซินแบบเดิม ในทางกลับกัน เครื่องยนต์รุ่นใหม่ยังมอบประสิทธิภาพในการขับขี่ที่เหนือชั้น ตั้งแต่สมรรถนะระดับซูเปอร์คาร์ไปจนถึงความหรูหราจากการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าที่เงียบสงบ

Flying Spur Mulliner และ Continental GT/C Mulliner สามารถขับขี่ได้อย่างเงียบสงบในโหมด EV เป็นระยะทางสูงสุดกว่า 81 กิโลเมตร ในรุ่น Continental GT/C และ 76 กิโลเมตร ในรุ่น Flying Spur เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่ในเขตปลอดมลพิษหรือการเดินทางในเมือง สำหรับโหมดไฟฟ้าแบบเต็มรูปแบบสามารถทำความเร็วสูงสุด 140 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมงด้วยการใช้งานคันเร่ง 75% โดยแบตเตอรี่สามารถชาร์จเต็มได้ภายในเวลาเพียง 2¾ ชั่วโมงด้วยการพัฒนาเครื่องชาร์จและความจุแบตเตอรี่ด้วยกำลังชาร์จสูงสุด 11 กิโลวัตต์ หากต้องการการขับขี่ที่เร้าใจยิ่งขึ้น การทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์รุ่น V8 และมอเตอร์ไฟฟ้า 782 แรงม้า จะส่งมอบประสิทธิภาพในการขับขี่ที่เร้าใจ พร้อมด้วยระบบแดมเปอร์วาล์วคู่ใหม่และสปริงอากาศแบบห้องคู่ที่จะช่วยเสริมกำลังให้กับเครื่องยนต์แบบ Ultra Performance Hybrid ใหม่ ผลลัพธ์ที่ได้จึงเป็นการผสมผสานประสิทธิภาพในการขับขี่ การควบคุม และความนุ่มสบายที่ลงตัว

ความหลากหลายของเฉดสี

สำหรับรุ่น Mulliner ลูกค้าสามารถเลือกเฉดสีได้กว่า 101 สี พร้อมด้วยเฉดสีอื่นๆ และยังสามารถรังสรรค์เฉดสีพิเศษให้เข้ากับตัวรถ สำหรับภายในห้องโดยสาร ลูกค้าสามารถเลือกเฉดสีหลักสำหรับหนังจาก 15 เฉดสี เฉดสีรอง 11 เฉดสี และเฉดสีเน้น 6 สีจากตัวเลือกเฉดสีที่หลากหลาย นอกจากนี้ ลูกค้า Mulliner ยังสามารถเลือกเฉดสีหนังที่สั่งทำพิเศษ โดยสามารถเลือกให้เข้ากับวีเนียร์ทั้ง 8 แบบ และแบบเคลือบเทคนิคอีก 3 แบบที่สามารถใช้เป็นแบบเคลือบชั้นเดียวหรือแบบเคลือบสองชั้น และยังสามารถสั่งทำสีให้เข้ากับเฉดสีหนังภายในหรือเฉดสีตัวถังภายนอกได้อีกด้วย

การบูรณาการเทคโนโลยีแบบไร้รอยต่อ

อัครยนตรกรรมจาก Mulliner มาพร้อมกับระบบไฟฟ้าแบบล่าสุดที่ถือเป็นก้าวสำคัญด้านเทคโนโลยีความบันเทิงภายในห้องโดยสารและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ เทคโนโลยีนี้ถือเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าที่สุดในกลุ่มยนตรกรรมหรูที่ประกอบไปด้วยจอแสดงผลสภาพแวดล้อมที่แสดงบนแผงหน้าปัดของผู้ขับขี่ที่รองรับและเปิดใช้งานโหมดกึ่งช่วยเหลือ

Bentley Mulliner

Mulliner ถือเป็นต้นกำเนิดการออกแบบตัวถังรถยนต์และผู้ผลิตตัวถังรถยนต์ที่เก่าแก่ที่สุดของโลก มีชื่อเสียงมาจากการเป็นผู้ผลิตรถยนต์เบนท์ลีย์รุ่นพิเศษให้มีเอกลักษณ์ในแบบเฉพาะตัว สำหรับในฐานะแผนกออกแบบพิเศษของเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส Bentley Mulliner สามารถตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าที่ต้องการคุณสมบัติพิเศษเฉพาะสำหรับรถยนต์เบนท์ลีย์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และนอกเหนือจากการออกแบบเฉพาะตัวแล้ว Mulliner ยังดูแลในส่วนของการผลิตตัวถังรถยนต์คลาสสิกขึ้นมาใหม่อย่าง Blower Continuation Series และ Speed ​​Six Continuation Series ที่มีชื่อเสียงที่สุดในช่วงทศวรรษ 1920 รวมถึงการผลิตรถยนต์รุ่นพิเศษอย่าง Bacalar, Batur และ Batur Convertible