เบนท์ลีย์ แบงค็อก เปิดรับจอง New Continental GT – New Flying Spur

By / 1 day ago / New cars / No Comments
เบนท์ลีย์ แบงค็อก เปิดรับจอง New Continental GT – New Flying Spur

ขุมพลัง High Performance Hybrid ใหม่ พร้อมมอบข้อเสนอพิเศษเฉพาะรุ่น

เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดรับคำสั่งจอง รุ่น New Continental GT ราคาเริ่มต้น 18,400,000 บาท รุ่น New Continental GT Convertible ราคาเริ่มต้น 20,200,000 บาท และรุ่น Flying Spur ราคาเริ่มต้น 16,900,000 บาท โดยแกรนด์ทัวเรอร์โฉมใหม่มาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์ High Performance Hybrid V8 แบบปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ที่จะมอบพละกำลังกว่า 680 แรงม้า ซึ่งในปัจจุบัน รุ่น New Continental GT และ New Flying Spur จะผลิตขึ้นสำหรับเครื่องยนต์ V8 แบบไฮบริดเท่านั้น

เบนท์ลีย์ แบงค็อก เปิดรับคำสั่งจอง New Continental GT และ New Flying Spur จำนวน 6 รุ่น ราคาเริ่มต้นดังต่อไปนี้

  • รุ่น New Continental GT
  • New Continental GT ราคาเริ่มต้น 18,400,000 บาท
  • New Continental GT Azure ราคาเริ่มต้น 20,200,000 บาท
  • รุ่น New Continental GT Convertible
  • New Continental GTC ราคาเริ่มต้น 20,200,000 บาท
  • New Continental GTC Azure ราคาเริ่มต้น 22,100,000 บาท
  • รุ่น New Flying Spur
  • New Flying Spur ราคาเริ่มต้น 16,900,000 บาท
  • New Flying Spur Azure ราคาเริ่มต้น 18,700,000 บาท

สำหรับการเปิดรับคำสั่งจองรถยนต์เบนท์ลีย์ รุ่น New Continental GT และ New Flying Spur เบนท์ลีย์ แบงค็อก มอบข้อเสนอพิเศษเฉพาะรุ่นเครื่องยนต์ V8 Hybrid ด้วยเอกสิทธิ์การบริการหลังการขายมาตรฐานโรงงานผู้ผลิตที่มาพร้อมกับการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดที่ ‘นานที่สุด’ ถึง 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) การรับประกันโดยโรงงานผู้ผลิต บริการผู้ช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง (24-hour Bentley Roadside Assistance) และ Service Package นาน 3 ปีเต็ม พร้อมสิทธิ์การต่อการรับประกันโดยโรงงานผู้ผลิต (Bentley Extended Warranty) สูงสุด 4

รุ่น Continental GT และในรุ่นย่อย Azure ใหม่เปิดตัวพร้อมกับระบบส่งกำลังไฮบริดสมรรถนะสูงรุ่นใหม่ของเบนท์ลีย์ที่ผสานเครื่องยนต์รุ่น V8 ขนาด 4.0 ลิตรและมอเตอร์ไฟฟ้าอันทรงพลังเข้าด้วยกันเพื่อสร้างพละกำลังสูงสุด 680 แรง แรงบิดสูงสุด 930 นิวตันเมตร แม้ว่าระบบส่งกำลังแบบ Ultra Performance Hybrid ในรุ่น Speed ​​จะยังคงเป็นระบบส่งกำลังที่ทรงสมรรถนะที่สุดของแบรนด์ แต่สิ่งที่สำคัญคือระบบ High Performance Hybrid รุ่นใหม่ที่เหนือกว่าระบบส่งกำลังรุ่น W12 เดิมในรุ่น Speed ก่อนหน้าในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นพละกำลัง แรงบิด และประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก็ยังมอบพิสัยการเดินทางได้สูงสุดถึง 80 กิโลเมตรในโหมดไฟฟ้าล้วน (EV)

การเปิดตัวแกรนด์ทัวเรอร์โฉมใหม่นี้จึงได้นิยามความเป็น Everyday Supercar ที่เน้นเรื่องสมรรถนะ พร้อมนำเสนอการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ระหว่างพละกำลังอันมหาศาล เสถียรภาพและความคล่องตัว การออกแบบที่ประณีต และงานฝีมืออันงดงาม

New Continental GT and GT Convertible

New Continental GT และ New GT Convertible เจเนอเรชันที่ 4 มาพร้อมกับดีไซน์คลาสสิกที่เป็นเอกลักษณ์ของรุ่นตั้งแต่รุ่นแรกที่เปิดตัวในปี 2546 ที่รวมถึงกระจังหน้าแบบเมทริกซ์อันเป็นเอกลักษณ์ที่ตกแต่งด้วยเฉดสีดำเงาพร้อมขอบและแถบโครเมียมตรงกลาง กระจังหน้าด้านล่างตกแต่งด้วยเฉดสีดำด้าน พร้อมกับสปลิตเตอร์ที่มาในเฉดสีดำเงา การออกแบบไฟหน้าแบบ ‘Harmony’ อันโดดเด่นมีความแตกต่างอย่างชัดเจนจากรุ่น Speed ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากคริสตัลเจียระไนและมีแอนิเมชันที่สั่งทำขึ้นเป็นพิเศษ วัสดุภายนอกมาในแบบโครเมียมพร้อมด้วยท่อไอเสียแบบโครเมียมเงา 2 ท่อด้านหลังที่โดดเด่นออกมาจากดิฟฟิวเซอร์เฉดสีดำเงา และไฟท้ายสีแดงที่มีแอนิเมชันแบบ ‘Harmony’

เบาะโดยสารแบบใหม่ผลิตขึ้นโดยช่างฝีมือ ณ โรงงานเมืองครูว์ โดยออกแบบเป็นลายร่องตรง นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถเลือกใช้แบบโครเมียมเงาหรือโครเมียมเข้มสำหรับการตกแต่งสวิตช์เกียร์ ช่องระบายอากาศ ปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศ และมือจับประตู พร้อมด้วยกาบบันไดที่สลักข้อความ “Handcrafted in Crewe, England”

เครื่องยนต์รุ่น V8 แบบ High Performance Hybrid มอบพละกำลังรวมกว่า 680 แรงม้า แรงบิดรวม 930 นิวตันเมตร New Continental GT จึงมีประสิทธิภาพในการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมด้วยอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง ใน 3.7 วินาที สำหรับ Continental GT ใหม่ และอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง ใน 3.9 วินาทีในรุ่น Continental GT Convertible พร้อมพิสัยการเดินทางด้วยพลังงานไฟฟ้ากว่า 85 กิโลเมตร สำหรับ New Continental GT และ 82 กิโลเมตร สำหรับ รุ่น New Continental GTC โดยมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในโหมดไฮบริดที่ต่ำกว่าเพียง 29 กรัม ต่อ กิโลเมตร และ 31 กรัม ต่อ กิโลเมตรตามลำดับ

New Continental GT ยังมอบประสิทธิภาพในการขับขี่ด้วยเทคโนโลยี Bentley Active Chassis ที่ประกอบไปด้วย Dynamic Ride, Rear Wheel Steering และ eLSD พร้อมโหมด Comfort, Bentley และ Sport ที่ให้ผู้ขับขี่ได้เลือกกับระบบส่งกำลังและแชสซีส์ที่จะมอบประสิทธิภาพในการขับขี่ที่เหนือกว่าในทุกสภาพพื้นถนน

New Continental GT Azure and GT Convertible Azure

New Continental GT/C Azure มาพร้อมกับการออกแบบที่งดงาม หรูหรา และการเน้นความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารอันเป็นคุณสมบัติเด่นของรุ่น Azure ใหม่ที่สะท้อนผ่านกระจังหน้าแบบเมทริกซ์เฉดสีดำเงาใหม่พร้อมกับขอบและกระจังหน้าแนวตั้งแบบโครเมียม ด้านล่างของกระจังหน้าสีดำเงาตัดกับกระจังหน้าแบบเงาบนกันชนหน้าและช่องรับอากาศด้านล่าง มากไปกว่านั้น ล้ออัลลอยด์แบบ Azure ขนาด 22 นิ้วสีเงินใหม่ และโลโก้ Azure บนบังโคลนหน้า ทำให้การตกแต่งภายนอกสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น พร้อมกับภายในห้องโดยสาร เบาะและประตูห้องโดยสารที่มีการเย็บด้วยลวดลายเพชรแบบ Harmony 3 มิติใหม่พร้อมปักลาย Azure บริเวณที่รองศีรษะ

คุณสมบัติเฉพาะของรุ่นยังมากับเบาะโดยสารแบบ Wellness ขอบไม้วีเนียร์วอลนัทแบบเปลือย กาบบันได Azure แบบเรืองแสง และการเย็บแบบคอนทราสต์บนเบาะโดยสาร พร้อมด้วยคุณสมบัติ Touring, Comfort และ Lighting Specification ที่มาเป็นมาตรฐานของรุ่น Continental GT Azure มาพร้อมซันรูฟแบบพาโนรามิก และ Continental GT Convertible Azure กับอุปกรณ์ที่อุ่นคอเพื่อให้ขับขี่ได้อย่างสบายเมื่อเปิดหลังคาในสภาพอากาศที่เย็น

New Flying Spur

New Flying Spur มาพร้อมกับขุมพลัง High Performance Hybrid และ Bentley Active Chassis ทำให้รุ่นนี้เป็นรองเพียงแค่ Flying Spur Speed เท่านั้นในแง่ของระยะทางการขับขี่ ความปลอดภัย และความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารสูงสุด 5 คน โดยตัวรถสามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง ใน 3.9 วินาที ซึ่งถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงสมรรถนะอันเหนือชั้นที่ยังมาพร้อมกับการขับขี่ที่นุ่มนวล พื้นที่ภายในที่สะดวกสบาย และความประณีตที่จะทำให้ทุกการเดินทางเป็นช่วงเวลาที่พิเศษ

Flying Spur รุ่นใหม่โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบเมทริกซ์สีดำเงา กระจังหน้าด้านล่างเฉดสีดำด้าน พร้อมด้วยวัสดุโครเมียม และท่อไอเสียทรงรีโครเมียมแบบเงา ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยเบาะโดยสารแบบร่องตรงพร้อมโลโก้ Bentley ที่ปักบริเวณพนักพิงศีรษะ พร้อมการตกแต่งด้วยโครเมียมสำหรับสวิตช์เกียร์ กรอบช่องปรับอากาศ และมือจับประตู นอกจากนี้ ยังมีอุปกรณ์ภายในห้องโดยสารแบบโครเมียมเข้มให้เลือกเป็นอุปกรณ์เสริม

New Flying Spur Azure

รุ่น Flying Spur Azure ตกแต่งเช่นเดียวกับ Continental GT Azure ที่มาพร้อมกระจังหน้าแบบเมทริกซ์สีดำเงาใหม่พร้อมขอบและกระจังหน้าแนวตั้งแบบโครเมียม คุณสมบัติที่โดดเด่นอื่นๆ อาทิ โลโก้ Azure บนบังโคลน กระจังหน้าด้านล่างแบบโครเมียม การตกแต่งด้วยวัสดุโครเมียม และล้ออัลลอยด์แบบ Azure ขนาด 22 นิ้วใหม่ ซึ่งตกแต่งด้วยเฉดสีเงินและโลหะเงา สำหรับการตกแต่งในรุ่น Azure มีให้เลือกทั้งแบบโครเมียมและแบบ Blackline Specification

รุ่น Azure คือ อัครยนตรกรรมที่เน้นความสะดวกสบายในการขับขี่ด้วยเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่เพื่อการเดินทางที่ราบรื่นและปลอดภัยยิ่งขึ้น ดังนั้น ทั้งเบาะโดยสารด้านหน้า 2 ที่นั่งและเบาะโดยสารด้านหลังอีก 2 ที่นั่งของ Flying Spur Azure จึงมาพร้อมเบาะโดยสารแบบ Wellness ที่ติดตั้งระบบปรับอุณหภูมิเบาะโดยสารและระบบระบายอากาศเพื่อรักษาอุณหภูมิที่เหมาะสมของร่างกายผู้โดยสารเพื่อความสบายและตื่นตัวตลอดการเดินทาง ฟังก์ชันเบาะนวดมีการตั้งค่าโปรแกรมถึง 6 แบบที่จะช่วยส่งเสริมการปรับท่านั่งอย่างต่อเนื่องเพื่อให้กล้ามเนื้อได้เคลื่อนไหวและช่วยลดความเมื่อยล้าในขณะเดินทาง

คุณสมบัติพิเศษอื่นๆ ได้รวมไปถึงระบบไฟหลากสีเพื่อสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร การเย็บแบบ Harmony บนประตูและเบาะโดยสาร ที่รองศีรษะแบบปักโลโก้ Azure ขอบไม้วีเนียร์แบบเปลือย และคุณสมบัติ Touring และ Comfort Specification และกาบบันได Azure แบบเรืองแสง

อัครยนตรกรรมที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ

ลูกค้ารถยนต์เบนท์ลีย์สามารถเลือกครอบครองรุ่น Continental GT, Continental GT Convertible หรือ Flying Spur ที่จะสะท้อนถึงคุณค่าด้านสุนทรียศาสตร์และประสิทธิภาพในการขับขี่ นอกเหนือไปจากนี้ เบนท์ลีย์ยังมอบทางเลือกในการรังสรรค์อัครยนตรกรรมในฝันด้วยเฉดสี วีเนียร์ การตกแต่งภายในห้องโดยสาร และตัวเลือกจาก Mulliner ที่ช่วยให้ลูกค้าแต่ละรายสามารถรังสรรค์อัครยนตรกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้อย่างแท้จริง