เปิดตัว GoPro HERO10 Black กล้องสุดแรงตัวใหม่

By / 3 years ago / EV ZONE / No Comments
เปิดตัว GoPro HERO10 Black กล้องสุดแรงตัวใหม่

พร้อมประสิทธิภาพเหนือขั้นกับคำนิยาม “Speed With Ease”

โกโปร (GoPro) สร้างเซอร์ไพรส์ ประกาศเปิดตัวกล้องตระกูล HERO รุ่นใหม่ HERO10 Black กับโปรเซสเซอร์ GP2 รุ่นใหม่ล่าสุดจากโกโปรที่จะช่วยทำให้คุณได้สัมผัสกับประสบการณ์การถ่ายภาพและวิดีโอเหนือขึ้นอีกระดับด้วยกล้อง Action Camera อย่าง GoPro HERO 10 Black ที่สามารถถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงถึง 5.3K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที วิดีโอความละเอียด 4K ที่ 120 เฟรมต่อวินาที และวิดีโอ 2.7K ที่ 240 เฟรมต่อวินาที   และด้วยระบบโปรเซสเซอร์ GP2 ใหม่นี้ทำให้เราสามารถพัฒนาระบบกันสั่นให้นิ่งและดียิ่งขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าวิดีโอที่ถ่ายออกมาจะไม่มีการสั่นไหวในทุก ๆ ช็อต พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่อีกครั้ง กับการเป็นระบบกันสั่นของกล้อง Action Camera ที่ดีที่สุด

HERO10 Black สามารถถ่ายภาพนิ่งด้วยความละเอียดสูงถึง 23 ล้านพิกเซล ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ GP2 ทำให้โกโปรมีการพัฒนาประสิทธิภาพเรื่องการถ่ายภาพและวิดีโอในที่ที่มีแสงน้อยให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

HERO10 Black ยังสามารถเชื่อมต่อกับระบบ Cloud เพื่อสำรองข้อมูลโดยอัตโนมัติเพียงแค่เสียบสายชาร์จ กล้องจะทำการอัปโหลดภาพและวิดีโอล่าสุดเข้าสู่ระบบ Cloud ผ่านแอปพลิเคชั่น GoPro Quik โดยระบบสำรองข้อมูลแบบไม่จำกัดข้อมูลนี้ พิเศษเฉพาะผู้ที่เป็นสมาชิกของ GoPro Quik แอปพลิเคชั่นเท่านั้น (สำหรับสมาชิกแบบรายเดือนจะมีค่าใช้จ่ายต่อเดือนอยู่ที่ 59 บาทต่อเดือน หรือสามารถจ่ายแบบรายปีที่ราคา 329 บาท)

HERO10 Black วางจำหน่ายทั่วประเทศไทยในราคา 16,500 บาท

“กล้อง GoPro HERO10 Black ถือเป็นหนึ่งในกล้องตระกูล HERO ที่น่าทึ่งที่สุดในโลก หากเปรียบเทียบจากราคาและประสิทธิภาพ” นิโคลาส วูดแมน (Nicholas Woodman) ผู้ก่อตั้งและ CEO ของโกโปร (GoPro) กล่าว “นอกจากนี้ ผมต้องขอกล่าวขอบคุณและชมเชยทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเราที่ทำให้ HERO10 Black รุ่นนี้กลายเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เราภูมิใจนำเสนอ”


ภาพความละเอียดสูงที่สมจริงยิ่งขึ้นและระบบกันสั่นที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา
โปรเซสเซอร์ GP2 รุ่นใหม่ล่าสุดใน GoPro HERO10 Black ผสานเข้ากับเซ็นเซอร์ความละเอียดสูงทำให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพได้อย่างสมจริงถึง 23.6 ล้านพิกเซล และยังสามารถถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด 5.3K ที่เฟรมเรท 60 เฟรมต่อวินาที ซึ่งมีความละเอียดสูงกว่าความละเอียดขนาด 4K ถึง 91% และยังให้ความละเอียดมากกว่าโหมด 1080p HD ถึง 665% แถมยังสามารถช่วยให้คุณถ่ายสโลว์โมชั่น 2X ได้ลื่นไหลมากกว่าเดิม ไม่หมดเพียงเท่านี้ผู้ใช้ยังสามารถถ่าย สโลว์โมชั่น 4K ได้ที่ 120 เฟรมต่อวินาที (สโลว์โมชั่น 4 เท่า) และถ่ายวิดีโอ 2.7K ได้ที่ 240 เฟรมต่อวินาที (สโลว์โมชั่น 8 เท่า)

โปรเซสเซอร์ GP2 โฉมใหม่นี้ ยังมีอัลกอริธึมสำหรับโหมดวิดีโอที่ได้รับการปรับปรุงและพัฒนาขึ้นอีกด้วย เช่น Local Tone Mapping (LTM) และ 3D Noise reduction (3DNR) ที่จะช่วยให้ภาพที่ออกมาคมชัดและสมจริงมากขึ้นกว่าเดิมแม้อยู่ในที่แสงน้อย

นอกจากการถ่ายภาพนิ่งที่ความละเอียดสูงถึง 23 ล้านพิกเซลแล้ว HERO10 Black ยังสามารถทำการดึงภาพนิ่งจากวิดีโอที่ความละเอียดสูงถึง 19.6 ล้านพิกเซล จากวิดีโอความละเอียด 5K ในอัตราส่วนภาพ 4:3 และภาพนิ่งจากวิดีโอ 15.8 ล้านพิกเซลจากวิดีโอ 5.3K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที   ซึ่งฟังก์ชั่นนี้จะกลายเป็นตัวช่วยสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการถ่ายภาพกีฬาหรือกิจกรรมที่ใช้ความเร็วสูง

ฟังก์ชั่นกันสั่น Hypersmooth 4.0 ใหม่นี้ เป็นระบบช่วยลดการสั่นสะเทือนดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาในกล้องโกโปร  ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าทุก ๆ การสั่นสะเทือนจะไม่ส่งผลต่อวิดีโอของคุณ ระบบ Horizon Levelling ที่ช่วยปรับระดับเส้นขอบฟ้ารุ่นใหม่นี้ ยังได้รับการปรับปรุงให้เอียงได้มากขึ้นกว่าเดิมจาก 27 องศาเป็น 45 องศาเพื่อให้ภาพของคุณออกมาสมบูรณ์แบบตามที่คุณต้องการ

เข้าถึงภาพและวิดีโอจากโกโปรของคุณได้เร็วขึ้น
HERO10 Black มาพร้อมกับวิธีถ่ายโอนภาพและวิดีโอที่สะดวกสบายมากมาย อาทิ

  • อัปโหลดไฟล์ภาพและวิดีโอล่าสุดของคุณไปยังบัญชี GoPro Cloud ของคุณโดยอัตโนมัติในขณะที่เสียบสายชาร์จ
  • ถ่ายโอนข้อมูลแบบไร้สายจากกล้องไปยังแอปพลิเคชั่น Quik ที่เร็วขึ้นสูงสุดถึง 30% ด้วย HERO10 Black
  • เพิ่มทางเลือกใหม่ในการถ่ายโอนข้อมูลผ่านสาย USB ที่ถ่ายโอนภาพและวิดีโอจากกล้องไปยังแอปพลิเคชั่น Quik บนสมาร์ทโฟนของคุณ โดยมีความเร็วสูงกว่าแบบไร้สายถึง 50%

บรรจุภัณฑ์ปลอดพลาสติก นำกลับมาใช้ซ้ำได้
โกโปรมุ่งมั่นที่จะนำบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และปลอดพลาสติกมาใช้กับผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของเรา  โดยไม่ได้เป็นเพียงบรรจุภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังเป็น Travel Case หรือกระเป๋าใส่กล้องคุณภาพสูงที่สามารถใส่อุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ได้จบในใบเดียว 

“เรามุ่งมั่นที่จะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ในทุก ๆ ขั้นตอนที่เราผลิตกล้องเอนกประสงค์ และซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ” นิโคลาส วูดแมน กล่าว

ฟีเจอร์ของ HERO10 Black

  • โปรเซสเซอร์ GP2 ใหม่
  • บันทึกวิดีโอที่ความละเอียด 5.3K60, 4K120 และ 2.7K240
  • ดึงภาพนิ่งจากวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 19.6MP
  • บันทึกภาพนิ่งที่ความละเอียด 23MP
  • ปรับปรุงประสิทธิภาพการถ่ายในที่แสงน้อย
  • Local Tone Mapping (LTM) และการลดนอยส์ 3D (3D Noise Reduction : 3DNR)
  • ระบบกันสั่นอันเหนือระดับรุ่นใหม่ HyperSmooth 4.0
  • Horizon Levelling ใหม่ ที่ช่วยปรับระดับภาพให้คงเส้นขอบฟ้ามากขึ้น ที่ 45 องศา สำหรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด 4K60, 2.7K120 และ 1080p120
  • จอภาพสีด้านหน้าที่มีเฟรมเรทสูงขึ้น เพื่อการ Preview ที่ลื่นไหลขณะถ่ายภาพและวิดีโอ
  • จอภาพแบบสัมผัสด้านหลังที่เร็วและลื่นขึ้น พร้อมด้วย Touch Zoom
  • การโอนถ่ายข้อมูลที่เร็วขึ้น
  • สามารถถ่ายโอนข้อมูลได้ถึง 3 วิธี: อัปโหลดผ่าน Cloud (Cloud Upload), การโอนถ่ายข้อมูลแบบไร้สาย (Wireless Offload) และ การโอนถ่ายข้อมูลแบบสายผ่านสมาร์ทโฟนแบบใหม่ (Wired Transfer to Your Phone)
  • ฝาครอบเลนส์แบบใหม่ (Hydrophobic) ออกแบบมาเพื่อป้องกันน้ำเกาะหน้าเลนส์โดยเฉพาะ
  • แบตเตอรี่ที่สามารถถอดออกมาชาร์จได้ขนาด 1,720mAh
  • TimeWarp 3.0 ที่รองรับการถ่ายแบบ Real Speed และ Half Speed
  • Livestream (ถ่ายทอดสด) ด้วยความคมชัดระดับ 1080p พร้อมรองรับระบบกันสั่น HyperSmooth 4.0
  • โหมดเว็บแคมความคมชัด 1080p
  • Power Tools: HindSight, LiveBurst, Scheduled Capture และ Duration Capture
  • SuperPhoto + HDR
  • วิดิโอ Night Lapse
  • รองรับภาพนิ่งไฟล์ RAW
  • มาพร้อมเลนส์ดิจิตอลหลากหลายมุมมอง ไม่ว่าจะเป็น Ultra-Wide (SuperView), Wide, Linear และ Narrow
  • คำสั่งเสียง 13 คำสั่งใน 11 ภาษา และ 6 สำเนียง
  • ไมโครโฟน 3 ตัว พร้อมระบบการลดเสียงรบกวนจากลมขั้นสูง
  • ระบบเสียง Stereo + RAW
  • Presets ที่ตั้งค่าได้ และคำสั่งลัด (Shortcut) บนหน้าจอ
  • เมาท์ขนาดเล็กพับได้ในตัวสำหรับการต่อเข้ากับเมาท์ต่าง ๆ ของ GoPro
  • บอดี้ที่ทนทาน และ กันน้ำได้ลึกถึง 33ft (10m)
  • รองรับการชาร์จไว (Fast-Charging)
  • สามารถใช้ได้กับ Media Mod, Display Mod, Light Mod และ Max Lens Mod (โดยจะรองรับผ่านการอัปเดตเฟิร์มแวร์หลังการวางจำหน่าย)