แลนด์โรเวอร์แนะนำ เรนจ์โรเวอร์ สปอร์ต เฮชเอสอี พลัส ในราคาใหม่ พร้อมเปิดตัว ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต ใหม่

By / 5 years ago / News / No Comments
แลนด์โรเวอร์แนะนำ เรนจ์โรเวอร์ สปอร์ต เฮชเอสอี พลัส   ในราคาใหม่ พร้อมเปิดตัว ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต ใหม่

บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย แนะนำรุ่น เรนจ์โรเวอร์ สปอร์ต ปลั๊กอิน ไฮบริด เฮชเอสอี พลัส (Range Rover Sport Plug-in Hybrid HSE Plus) จัดจำหน่ายในราคาเริ่มต้น 5,699,000 บาท เพื่อให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น และเปิดตัวรถยนต์ แลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต ใหม่ (New Land Rover Discovery Sport) รถเอสยูวีขนาดกลางระดับพรีเมียมที่มาพร้อมกับจุดเด่นตัวเลือกที่นั่งแบบ 5+2 โดยจัดจำหน่ายในราคาเริ่มต้น 3,799,000 บาท รถยนต์ทุกรุ่นจะได้รับแคมเปญ “Worry-Free Program” ให้ความคุ้มค่ากับการรับประกันนาน 5 ปี บริการซ่อมบำรุงฟรี 5 ปี และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี

นายชาญชัย มหันตคุณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เรนจ์     โรเวอร์ สปอร์ต ปลั๊กอิน ไฮบริด เป็นรถยนต์เอสยูวีขนาดใหญ่ที่มีสมรรถนะยอดเยี่ยม ทั้งการขับขี่บนถนนปกติและในเส้นทางออฟโรด ที่ผ่านมาเราจำหน่ายด้วยราคา 7.399 ล้านบาท กับความหรูหราผ่านการเลือกใช้วัสดุระดับพรีเมียม ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่เลือกมีการใช้งานที่หลายหลาก ไม่เพียงขับในเมืองแต่มีการใช้การบรรทุกสัมภาระขนาดใหญ่เพื่อขับขี่ไปนอกเมือง หรือการขับขี่ในสภาพแวดล้อมที่สมบุกสมบัน ด้วยเหตุนี้เราจึงมีการปรับออฟชั่นให้เหมาะสมกับการใช้งานในลักษณะที่แตกต่าง โดยเปิดโฉมรุ่น เฮชเอสอี พลัส ราคาจำหน่ายเริ่มต้นเพียง 5.699 ล้านบาท เพื่อให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น

โดย เรนจ์โรเวอร์ สปอร์ต ปลั๊กอิน ไฮบริด เฮชเอสอี พลัส ออฟชั่นประกอบด้วย ล้ออัลลอยด์ที่มีขนาดใหญ่ถึง 21 นิ้ว เพิ่มความสง่าและสวยงามของรูปโฉมภายนอก พร้อมเทคโนโลยีหลอดไฟหน้า Matrix LED สามารถปรับการทำงานตามสภาพการขับขี่อัตโนมัติไม่รบกวนรถที่วิ่งสวนมา ด้านความปลอดภัยขั้นสูง อาทิ ระบบช่วยเตือนเมื่อมี รถอยู่ในจุดบอดสายตา ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ พร้อมกล้องแสดงภาพ รอบทิศทาง 360° ระบบการตรวจเช็คคนเดินถนน ระบบตรวจจับด้านหลังตัวรถและสภาวะของผู้ขับขี่

ด้านความบันเทิงภายในห้องโดยสารด้วยเทคโนโลยี InControl Connect Pro หน้าจอ สัมผัสขนาดใหญ่ 10 นิ้ว ในตำแหน่งแผงหน้าปัดกลาง แสดงผลภาพกราฟิกที่คมชัด และเมนูที่ใช้งานง่าย รวมเทคโนโลยีล่าสุดของระบบนำทางและความบันเทิงเข้าไว้ด้วย กัน เชื่อมต่อสมาร์ทโฟน iOS และ Android กับระบบเสียง Meridian รอบทิศทางที่มี ลำโพงถึง 19 ตัว พร้อมด้วยซับวูฟเฟอร์ มอบประสบการณ์ในการรับฟังที่ยอดเยี่ยมที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการสตรีมเพลงออนไลน์หรือการเล่นเพลงโดยตรงจากอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ และยังสามารถใช้ฮอตสปอต Wi-Fi สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายในรถ”

นายชาญชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า “และการเปิดตัว แลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต ใหม่ ด้วยราคาจำหน่ายเริ่มต้น 3.799 ล้านบาท เป็นการเพิ่มทางเลือกสำหรับลูกค้าที่ต้องการรถเอสยูวีขนาดกลางที่มีความอเนกประสงค์ ด้วยสมรรถนะในการขับขี่ทุกสภาพถนนที่ยอดเยี่ยม ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต ใหม่ สมบูรณ์แบบทั้งในด้านการออกแบบและด้านวิศวกรรม การออกแบบตัวเลือกที่นั่งแบบ 5+2 ทำให้สามารถเดินทางพร้อมกันได้ทั้งครอบครัว สัดส่วนและรูปทรงของรถได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้รถมีขนาดกะทัดรัดและดูโดดเด่นสะดุดตาโดยไม่ส่งผลใดๆ ต่อฟังก์ชันการทำงาน

ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล Ingenium ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 180 แรงม้า และรุ่นระบบไฟฟ้าไฮบริดแบบปลั๊กอิน (PHEV) เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร 3 สูบ กำลังสูงสุด 300 แรงม้า ลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิง มาพร้อมคุณสมบัติขับเคลื่อนสี่ล้อ พร้อมกับ Active Driveline รุ่นที่สองที่มี Driveline Disconnect เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และ Adaptive Dynamics เพื่อให้เกิดความสะดวกสบายและความคล่องตัวไปพร้อม กัน Terrain Response 2 ทำงานโดยตรวจจับพื้นผิวการขับขี่โดยอัตโนมัติและปรับการตั้งค่าไปตามสภาพพื้นผิวที่ตรวจจับได้ โดยสามารถลุยน้ำได้ลึกได้ถึง 600 มม.

แลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต ใหม่  ได้ก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอลด้วย  ‘กระจกมองหลัง ClearSight’ ที่เปลี่ยน เป็นหน้าจอวิดีโอระดับ HD หากการมองภาพด้านหลังถูกรบกวนจากผู้โดยสารหรือสิ่งของขนาดใหญ่ คนขับเพียงแค่หมุนสวิตช์ที่ด้านล่างของกระจกจากนั้นฟีดกล้องที่ด้านบนของตัวรถจะแสดงภาพสิ่งที่อยู่ด้านหลังรถด้วยความคมชัดสูง หน้าจอให้การมองเห็นที่กว้างขึ้น (50 องศา) และการมองเห็นที่เหนือกว่าในที่แสงน้อย และเทคโนโลยี Ground View ซึ่งทำให้มองเห็นสิ่งกีดขวางด้านหน้ารถได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการแสดงภาพจากกล้องขึ้นบนหน้าจอสัมผัสด้านบน เพื่อให้คนขับได้มองเห็นภาพด้านล่างของหน้ารถแบบ 180 องศา ซึ่งถือว่ามีประโยชน์เวลาจอดรถในที่ที่ มีพื้นที่น้อย หรือขับผ่านพื้นที่ขรุขระต่างๆ พร้อมด้วยเทคโนโลยีในการเชื่อมต่อคุณเข้ากับสมาร์ทโฟนอย่างง่ายดายยิ่งขึ้นกับ Apple CarPlay และ Android Auto”