มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มอบโซลาร์เซลล์ แก่คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม. บูรพา

By / 4 years ago / News / No Comments
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มอบโซลาร์เซลล์ แก่คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม. บูรพา

มุ่งสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนอย่างยั่งยืน

บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัดนำโดยนายชลัช กังวานธนวัตผู้อำนวยการใหญ่สำนักวิศวกรรมการผลิตเป็นตัวแทนบริษัทฯมอบแผงโซลาร์เซลล์พร้อมด้วยอุปกรณ์แปลงไฟให้แก่คณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยบูรพาเพื่อใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนโดยมี  ผศ.ดร.ณยศ คุรุกิจโกศล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ดร.ไพบูลย์ ลิ้มปิติพานิชย์ หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกลและดร.ณัฐพันธ์ ถนอมสัตย์ หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้าเป็นผู้รับมอบณคณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยบูรพาซึ่งการสนับสนุนในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเพื่อสังคมของมิตซูบิชิมอเตอร์สประเทศไทยภายใต้ปณิธานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม “สรรค์สร้างเคียงข้างสังคมไทย” 

ที่ผ่านมามิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้มุ่งเน้นสนับสนุนด้านการศึกษาในประเทศไทยแก่เยาวชนไทยหลากหลายโครงการ ได้แก่ หลักสูตรนักศึกษาฝึกงานประจำปี (Talent Internship Program) กับ 9 มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ และโครงการมอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นที่มีผลการเรียนดีเด่น ร่วมกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เป็นต้น

นอกจากนี้มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนผ่านโครงการต่างๆโดยเริ่มต้นใช้พลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์(Solar Energy)ซึ่งเป็นพลังงานทดแทนในกระบวนการผลิตที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังจังหวัดชลบุรีเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และลดการใช้พลังงานไฟฟ้าจากฟอสซิลรวมถึงการให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์รถยนต์ที่จะช่วยตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมด้วยการเปิดตัวรถยนต์มิตซูบิชิเอาท์แลนเดอร์พีเอชอีวีซึ่งเป็นรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดสัญชาติญี่ปุ่นรุ่นแรกที่ผลิตขึ้นในประเทศไทยในปีพ.ศ. 2563เพื่อสนับสนุนโครงการรถยนต์Electric Vehicleตามนโยบายของรัฐอีกทั้งยังได้เปิดตัวระบบนิเวศพลังงานไฟฟ้าแห่งอนาคต“เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์”(Dendo Drive House) ที่ทำงานร่วมกับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดมิตซูบิชิเอาท์แลนเดอร์พีเอชอีวีพร้อมกับเครื่องอัดและจ่ายประจุไฟฟ้า     (Bi-Directional Charger) แผงโซลาร์เซลล์และแบตเตอรี่สำรองกระแสไฟฟ้าในที่พักอาศัยทำให้สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าจากที่พักอาศัยได้เองเพื่อนำไปใช้ในการชาร์จกระแสไฟฟ้าให้แก่ยานพาหนะและในทางกลับกันยังสามารถดึงกระแสไฟฟ้าออกจากยานพาหนะเพื่อนำมาใช้ในยามฉุกเฉินและเป็นการส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนในแบบที่ยั่งยืน./