HAVAL H6
HAVAL เป็นแบรนด์รถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) 1 ใน 5 แบรนด์รถยนต์ จาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่แยกเป็นแบรนด์อิสระในปี 2013 เพื่อมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตรถ SUV ระดับมืออาชีพ
โดย HAVAL เป็นแบรนด์ SUV แบรนด์แรกในจีนที่เข้าสู่กลุ่มยอดขาย 6 ล้านคัน ด้วยยอดขายสะสมมากกว่า 6.5 ล้านคัน ได้รับการยกย่องให้เป็นแบรนด์รถเอสยูวีระดับโลก ในปี 2018 และเป็น 1 ใน 3 แบรนด์เอสยูวี ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก การันตีด้วยผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกไปยังต่างประเทศมากกว่า 60 ประเทศ สำหรับประเทศจีน HAVAL ถูกจัดอันดับแบรนด์รถยนต์ที่มีมูลค่าสูงสุดของจีนด้วยมูลค่าแบรนด์ 6.8 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ยังเป็น SUV ที่สามารถรักษายอดขายรถเอสยูวีอันดับ 1 ในประเทศจีนได้เป็นเวลา 11 ปี ติดต่อกัน โดยมี HAVAL H6 เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุด ด้วยยอดขายรวมกว่า 3 ล้านคัน นับตั้งแต่เปิดตัวมา
All New HAVAL H6 Hybrid SUV
เผยโฉมเป็นครั้งแรกของโลก ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 ที่ประเทศไทย ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ที่เข้าเยี่ยมชมงานอย่างล้นหลาม ด้วยคุณลักษณะพิเศษที่เพียบพร้อมด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีอันล้ำสมัยผสานกับดีไซน์อันโดดเด่น ได้แก่
รูปลักษณ์ภายนอก
จากประสบการณ์การออกแบบรถยุโรปมาอย่างยาวนานของ คุณ ฟิล ซิมมอนส์ (Phil Simmons) รองประธาน และหัวหน้าทีมออกแบบของเกรท วอลล์ มอเตอร์ All New HAVAL H6 Hybrid SUV จึงได้รับการออกแบบตามหลักสุนทรียศาสตร์ โดยการใช้เส้นโค้งและลายเส้นที่เรียบง่าย ประณีต ให้ความพรีเมียม ล้ำยุค เรียบง่ายจากการตัดองค์ประกอบที่ไม่จำเป็นออกไป ซึ่งประกอบด้วย
- การออกแบบด้านหน้าที่หรูหรา ประณีตงดงาม Exquisite front design
- ไฟหน้า LED อัจฉริยะ Intelligent LED headlamp
- เส้นสายรอบตัวรถที่มีเอกลักษณ์ Body waistline
- หลังคาพาโนรามิคซันรูฟขนาดใหญ่ Panoramic sunroof
- แถบไฟท้ายแบบ LED พาดยาวจากซ้ายจรดขวา LED taillight strip
- ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว 19” Alloy wheel
- ตัวรถมีขนาด กว้างคูณยาวถึง 1886 x 4653 มม. ความสูง 1724 มม. ระยะฐานล้อ 2738 มม. จึงนับว่ามีขนาดใหญ่กว่า C-SUV โดยทั่วไป
การตกแต่งภายใน
ภายในมีการออกแบบที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายของความสปอร์ต โฉบเฉี่ยว ที่ผสานเทคโนโลยีชั้นนำแห่งยุคไว้ได้อย่างลงตัว เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่าง โดยสัมผัสได้จาก
- ดีไซน์ทูโทน ที่ให้ความรู้สึกถึงโลกอนาคต
- การตกแต่งภายในด้วยสีที่ยกระดับความหรูหรา อาทิ สีโรสโกลด์ สีแกรนด์เปียโนแบล็ค ที่เข้ากับโครเมียมและไฟ ambience light ได้เป็นอย่างดี
- Multi-Display แผงหน้าปัดแบบลอยตัว พร้อมจอ Infotainment ขนาดใหญ่ และจอแสดงผล
แบบ Head Up Display (HUD) แสดงภาพข้อมูลการขับขี่ได้อย่างครบครัน
- พวงมาลัยไฟฟ้าแบบ Multi-Function
- เกียร์ไฟฟ้า Electronic shifter
- ชาร์จแบบไร้สายด้วย Wireless charger
- เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแบบคู่ พร้อมตัวกรอง CN95 และช่องแอร์ด้านหลัง
- เบาะคู่หน้าแบบไฟฟ้าสุดอัจฉริยะ
สมรรถนะและเทคโนโลยีที่มาพร้อมกับความประหยัด
All New HAVAL H6 Hybrid SUV จะมอบประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับและทำให้ผู้ขับเพลิดเพลินไปกับความเป็นไปได้ที่ไร้ขีดจำกัด
- ด้วย GWM LEMON Hybrid ที่สามารถรองรับทุกสถานการณ์การขับขี่ที่หลากหลายได้อย่างเต็มรูปแบบ ประกอบไปด้วยโหมดการขับขี่ 4 แบบ ได้แก่ โหมดมาตรฐาน/ โหมดสปอร์ต/ โหมดประหยัด/ โหมดสภาพถนนลื่น เพื่อตอบสนองการขับขี่ในสภาพถนนที่แตกต่างกัน
- ในด้านขุมพลัง All New HAVAL H6 Hybrid SUV มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร พร้อมเทอร์โบซูเปอร์ชาร์จเจอร์ (VGT) ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 243 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 530 นิวตัน-เมตร ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์ที่ดีที่สุดของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ สร้างการขับเคลื่อนอย่างมีพลัง
- สำหรับความประหยัดนั้น All New HAVAL H6 Hybrid SUV ใช้เพลาขับเคลื่อนอิเล็กทรอนิกส์แบบ
Multi-mode DHT รองรับการขับขี่ตามความต้องการ ช่วยประหยัดน้ำมัน คลายความกังวลด้วยระบบเกียร์ไฮบริดรุ่นแรกที่มี 2 เกียร์ ที่ด้านเครื่องยนต์และอีก 1 เกียร์ที่ด้านมอเตอร์ขับเคลื่อน เพื่อรองรับการขับเคลื่อนที่หลากหลาย
อำนวยความสะดวกในการขับขี่พร้อมสร้างความมั่นใจด้วยความปลอดภัยสูงสุดจากเทคโนโลยีชั้นนำ
All New HAVAL H6 Hybrid SUV ประกอบด้วยระบบอัจฉริยะมากมายที่จะมอบประสบการณ์ใหม่และทำให้การขับขี่เป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน
“All New HAVAL H6 Hybrid SUV” พิเศษด้วย LIFE+ (LIFE PLUS) ระบบอัจฉริยะที่ตอบสนองความต้องการในทุกเส้นทางการขับขี่ ซึ่งประกอบไปด้วย
- L: L2 ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ Level 2 มาพร้อม 22 ฟังก์ชั่นอัจฉริยะที่ช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น อาทิ
- ระบบช่วยจอดรถยนต์อัตโนมัติ 3 รูปแบบ หรือ Integration Auto Parking (IAP)ด้วยกล้อง 360 องศา และเซนเซอร์อัลตร้าโซนิค สามารถค้นหาที่จอดรถ ตรวจจับสิ่งกีดขวาง ค้นหาพื้นที่ว่างสำหรับจอดรถยนต์ และสามารถแนะนำการจอดรถได้อย่างถูกต้อง คำนวณพื้นที่สำหรับจอดรถได้อย่างแม่นยำ โดยสามารถช่วยจอดได้ทั้งในรูปแบบการถอยเข้าช่องจอด การจอดขนานเส้นทางเดินรถ และการจอดตามแนวเฉียง
- ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ หรือ Auto Reversing Assistance (ARA)โดยระบบจะสามารถจดจำเส้นทางเมื่อรถขับเคลื่อนด้วยความเร็วต่ำกว่า 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถถอยหลังกลับตามเส้นทางเดิมได้ในระยะทางถึง 50 เมตร
- ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง Wisdom Dodge System (WDS) โดยระบบจะช่วยตรวจจับรถบรรทุกและรถขนาดใหญ่ เพื่อควบคุมให้รถยนต์รักษาระยะห่างจากรถบรรทุก โดยหลังจากวิ่งผ่านรถบรรทุกแล้ว รถยนต์จะกลับเข้าสู่กลางเลนตามปกติ
ซึ่งทั้ง 3 ระบบข้างต้น ถือเป็นระบบความปลอดภัยในรถยุโรประดับพรีเมียม นับได้ว่าเป็นครั้งแรกหรือ First in Class ในรถที่มีขนาดและระดับราคาเดียวกันในตลาดประเทศไทยในเวลานี้
นอกจากนี้ ยังมีระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะอีกมากมาย อาทิเช่น
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control (ACC) ซึ่งเป็นระบบอัจฉริยะที่จะระบุเส้นทางด้านหน้าของตัวรถ ไปพร้อมกับประสานการทำงานของระบบเบรกและระบบควบคุมเครื่องยนต์ เพื่อรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถยนต์คันหน้า และระบบช่วยหยุดรถยนต์และออกตัว (stop-and-go) เพิ่มความสะดวกสบายในการขับรถสำหรับย่านที่มีการจราจรพลุกพล่าน
- ระบบแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา 360 ° Surrounding camera ด้วยการใช้กล้องรอบทิศทางความละเอียดสูงระดับสี่ล้านพิกเซลในการแสดงภาพรอบตัวรถยนต์สามารถมองเห็นสภาพถนนรอบตัวรถได้อย่างง่ายดายหรือเมื่อต้องขับขี่รถยนต์ในถนนที่แคบหรือที่จอดรถ
- I: Intelligence V3.5 ระบบอัจฉริยะที่ช่วยสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น อาทิ
ระบบโต้ตอบด้วยเสียง (Voice Interaction) ระบบอินเทอร์เน็ตอัจฉริยะ (Intelligent Internet) รวมไปถึงระบบหน้าจออัจฉริยะ ที่ช่วยให้เชื่อมต่อและค้นหาข้อมูลการเดินทางได้อย่างชาญฉลาด - F: FOTA ระบบการอัปเกรดโปรแกรมออนไลน์ สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยการอัปเกรด Firmware ได้เองผ่านระบบออนไลน์ โดยไม่จำเป็นต้องเอารถเข้าศูนย์บริการ ไม่ว่าจะเป็น ระบบการขับขี่อัจฉริยะต่างๆ ระบบขับเคลื่อน และระบบส่งกำลัง
- E: EYE Q4 ชิปอัจฉริยะที่ประมวลผลได้รวดเร็วขึ้น สามารถประมวลผลภาพจากกล้องหลายตัวได้ในเวลาเดียวกัน และยังสามารถรักษาเสถียรภาพในการทำงานได้ดีหากมีการชนหรือมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น
เครือข่ายและการให้บริการ
ประเทศไทยจะเป็นประเทศแรกในโลกที่จะนำรูปแบบการทำธุรกิจแบบ New User Experience มาประยุกต์ใช้ โดยมุ่งเน้นให้ผู้บริโภคได้รับบริการและความพึงพอใจสูงสุด กล่าวคือ
- Best Choice: ลูกค้าต้องเป็นผู้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดได้ด้วยตัวเอง
- Transparency: ลูกค้าต้องได้รับการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่โปร่งใส ตรงไปตรงมา
- Happiness & Loyalty: ลูกค้าจะต้องมีความสุขและประสบการณ์ที่ดีกับแบรนด์ตลอดการเป็นเจ้าของ และพร้อมที่จะส่งมอบความสุขนี้ให้กับผู้อื่นด้วยการบอกต่อ
พร้อมกันนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ วางแผนเปิด Partner Store ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งผู้บริโภคจะได้พบกับโชว์รูมและศูนย์บริการกว่า 17 แห่งทั่วประเทศ โดยครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ได้แก่
- กรุงเทพและปริมณฑล 8 แห่ง
- ชลบุรี 3 แห่ง
- ระยอง 1 แห่ง
- เชียงใหม่ 1 แห่ง
- ขอนแก่น 1 แห่ง
- นครราชสีมา 1 แห่ง
- สงขลา 1 แห่ง
- ภูเก็ต 1 แห่ง
และมีแผนที่จะเปิด Partner Store รวมไปถึงเปิด GWM Store ซึ่งเป็นโชว์รูมของเกรท วอลล์ มอเตอร์ รวมทั้งสิ้นกว่า 30 แห่ง ภายในสิ้นปีนี้ เพื่อช่วยเพิ่มช่องทางให้ผู้บริโภคชาวไทยสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น