มาเซราติ ประเทศไทย เปิดตัว ‘MC20 CIELO’ ครั้งแรกในไทย

มาเซราติ ประเทศไทย เปิดตัว ‘MC20 CIELO’ ครั้งแรกในไทย

มาเซราติ ประเทศไทย เปิดตัว ‘MC20 CIELO’ ครั้งแรกในไทย และเอเชีย-แปซิฟิก พลิกเกมซูเปอร์คาร์ ใน มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44

มาเซราติ ประเทศไทย สะกดทุกสายตากับความเป็น ‘Italian Audacity’ ที่งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 เปิดตัว ‘เอ็มซี20 เซียโล’ (MC20 CIELO) ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นเปิดหลังคาของรุ่น ‘เอ็มซี20’ (MC20) ซูเปอร์คาร์รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของ มาเซราติ เป็นครั้งแรกในประเทศไทยและเอเชีย-แปซิฟิก พร้อมจัดแสดงยนตรกรรมอีกหลายรุ่น ระหว่างวันที่ 22 มีนาคม ถึง 2 เมษายน พ.ศ. 2566 ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ณ แชลเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี

ปิยะเทพ ศิวากาศ, ผู้จัดการทั่วไป, มาเซราติ ประเทศไทย เผยว่า “มาเซราติ ‘เอ็มซี20 เซียโล’ คือ ซูเปอร์คาร์ที่ถ่ายทอดสมรรถนะของสุดยอดรถสปอร์ตพันธุ์แท้ ผสานสุนทรียภาพของการขับขี่ ในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน พร้อมดีกรีความเร้าใจที่เพิ่มขึ้น จากการเป็นรถที่สามารถเปิดหลังคา เพื่อมอบประสบการณ์ขับสุดพิเศษ ในแบบ ‘Italian Audacity’ ที่มีให้สัมผัสในยนตรกรรมจาก มาเซราติ เท่านั้น”

++ MC20 CIELO เปิดหลังคา ท้าสายลม ผสมผสานสุนทรียภาพและความเร้าใจ

มาเซราติ ‘เอ็มซี20 เซียโล’ อักษร MC ย่อจากคำว่า Maserati Corse ตัวเลข 20 สื่อถึงปี ค.ศ. 2020 ซึ่งเป็นการก้าวสู่ยุคใหม่ของแบรนด์ ขณะที่ชื่อรุ่น เซียโล (CIELO) หมายถึง ‘ท้องฟ้า’ 
ในภาษาอิตาเลียน สอดคล้องกับการเป็นยนตรกรรมที่สามารถเปิดหลังคา เพื่อโอบรับความกว้างขวางของท้องฟ้าแบบไร้ขีดจำกัด สะกดทุกสายตา ด้วยความงามสง่าและดูเป็นสปอร์ต ประตูปีกผีเสื้อ ช่วยอำนวยความสะดวกในการเข้า-ออกห้องโดยสาร โครงสร้างตัวถังผลิต
จากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ที่เบาแต่แข็งแกร่ง

ขุมพลัง ‘เน็ททูโน’ (Nettuno) เบนซิน วี6 สูบ ทวินเทอร์โบ 630 แรงม้า (HP) แรงบิด 730 
นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 2.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 325 กิโลเมตร
ต่อชั่วโมง ผสานความหรูหราแบบไม่ซ้ำใคร กับนวัตกรรมหลังคากระจกพับเก็บได้ ใช้เวลาเพียง 
12 วินาที ให้ผู้ขับได้รู้สึกถึงความปลอดโปร่งของท้องฟ้าแบบไร้ขีดจำกัด ความพิเศษอยู่ที่กระจก electrochromic (smart glass) ที่ใช้เทคโนโลยี Polymer-Dispersed Liquid Crystal (PDLC) สามารถปรับให้ใสหรือทึบแสงได้อัตโนมัติผ่านการกดปุ่ม เพิ่มสุนทรียภาพแห่งการขับขี่ ด้วยชุดเครื่องเสียงจาก Sonus faber พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง เป็นหนึ่งในออปชั่นที่น่าสนใจ การันตีด้วยรางวัล EISA ในสาขาเครื่องเสียงรถยนต์ พร้อมติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสม ให้มิติเสียงที่แตกต่างอย่างเป็นธรรมชาติ

นอกจากนั้น ก็ยังจัดแสดง มาเซราติ อีกหลายรุ่น อาทิ เกรคาเล่ จีที (Gracale GT), เลวานเต้ 
จีที ไฮบริด (Levante GT Hybrid), กิบลี่ จีที ไฮบริด (Ghibli GT Hybrid) และ ควอตโตรปอร์เต้ (Quattroporte)

สัมผัสความเร้าใจ ในแบบ ‘Italian Audacity’ ได้ที่บูธ มาเซราติ ประเทศไทย (A5) ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ระหว่างวันที่ 22 มีนาคม ถึง 2 เมษายนนี้ 
ที่แชลเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี

+++++++++++

เกี่ยวกับ มาเซราติ เอส.พี.เอ.

มาเซราติ เป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่มีรูปลักษณ์และบุคลิกโดดเด่น เพียงได้เห็นก็ทราบทันทีว่าเป็น 
มาเซราติ นับเป็นรถที่กำเนิดมาพร้อมสไตล์, เทคโนโลยี และคาแรคเตอร์พิเศษ ตรงใจผู้มีรสนิยมสุดพิถีพิถัน และเป็นเสมือนบรรทัดฐานในอุตสาหกรรมยานยนต์มาโดยตลอด รถทุกรุ่นล้วนสะท้อนตัวตนของยนตรกรรมอิตาเลียนออกมาได้อย่างชัดเจน ทั้งในด้านการดีไซน์, สมรรถนะ, ความสะดวกสบาย, ความหรูหรา และความปลอดภัย ปัจจุบันมีจำหน่ายในกว่า 
70 ประเทศทั่วโลก นำโดยซีดานสุดหรู ควอตโตรปอร์เต้, สปอร์ตซีดาน กิบลี่ ที่เพิ่งเปิดตัวเวอร์ชันไฮบริด และ เลวานเต้ ที่เป็นเอสยูวีรุ่นแรกในประวัติศาสตร์ ขณะที่ขุมพลังก็มีให้เลือกครบครัน ทั้งเบนซิน วี8 สูบ, วี6 สูบ, 4 สูบ ไฮบริด และดีเซล วี6 สูบ พร้อมระบบขับเคลื่อน 
2 หรือ 4 ล้อ นอกจากนั้นก็มียนตรกรรมรุ่นพิเศษ ‘Trofeo Collection’ คือ ควอตโตรปอร์เต้ 
กิบลี่, เลวานเต้ และ เกรคาเล่ ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน วี8 สูบ 580 แรงม้า ตอกย้ำดีเอ็นเอ
แห่งความสปอร์ตของค่ายตรีศูล ปิดท้ายด้วย เอ็มซี20 ซูเปอร์คาร์รุ่นล่าสุด ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน วี6 สูบ Nettuno ผสานเทคโนโลยีจากสนามแข่งฟอร์มูลาวัน ปัจจุบันรถยนต์ มาเซราติ ผลิตขึ้นในโรงงาน 3 แห่ง โดยรุ่น ควอตโตรปอร์เต้ และ กิบลี่ ผลิตที่โรงงาน Avvocato Giovanni Agnelli Plant ที่เมืองตูริน, เลอวานเต้ ผลิตที่ Mirafiori Plantเมืองตูริน และ เอ็มซี20 ผลิตที่โรงงาน Viale Ciro Menotti เมืองโมเดนา