“OR BRIC Superbike” เรตติ้งติดลมบน!!
เตรียมดวลสนามสอง ต้น มิ.ย.นี้
ศึกสองล้อสุดยิ่งใหญ่ของไทย รายการ โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2023 เตรียมระเบิดความมันส์สนาม 2 วันที่ 2-4 มิถุนายนนี้ นักบิดดาวดังมาครบ บอสใหญ่ “สนามช้างฯ โปรโมเตอร์มอเตอร์สปอร์ตเบอร์หนึ่ง ปลื้มยอดผู้ชมพุ่งสูง เรตติ้งดีทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ชี้เป็นผลจากเรซที่เข้มข้นและยกระดับขึ้นสู่การแข่งขันชั้นนำของเอเชีย
การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2023 ศึกสองล้อที่ได้รับความนิยมและยิ่งใหญ่ที่สุด ด้วยทัพนักบิดชั้นนำ ดาวรุ่งทั้งไทย-เทศกว่า 200 คน ทีมแข่งกว่า 120 ทีม มีคิวดวลความเร็วระหว่างวันที่ 2-4 มิถุนายนนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เปิดเผยว่า “หลังผ่านสนามแรกเมื่อเดือนเมษายน เราแสดงให้เห็นว่า โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ มีการยกระดับขึ้นทุกปี โดยเฉพาะเรื่องไลน์อัพของการแข่งขันทุกรุ่น ซึ่งถือเป็นการรวมนักแข่งที่ดีที่สุดในทุกคลาสของเมืองไทยเอาไว้ โดยเฉพาะในรุ่นใหญ่อย่าง ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี ซึ่งปีนี้เราปรับไปใช้กฎเดียวกับ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง ทำให้ได้เห็นการพัฒนาขึ้นอย่างมากของทีมแข่งไทย ส่วนในรุ่นอื่นๆ ก็ยังเข้มข้นไม่แพ้กัน”
“สิ่งหนึ่งที่เราแฮปปี้มาก คือจำนวนผู้รับชมทั้งในสนามและระบบถ่ายทอดสดออนไลน์ที่สูงขึ้นอย่างมาก นี่คือสิ่งที่เราต้องการเห็นกับการแข่งขันที่เป็นรายการของคนไทย และ โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ ก็กำลังยกระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผมเชื่อว่าการลุ้นแชมป์ประจำปีในฤดูกาลนี้จะเข้มข้น และได้ลุ้นกันอย่างสนุก ยาวไปจนตัดสินกันถึงสนามสุดท้ายเช่นเดียวกับทุกปี ซึ่งจะถูกใจแฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตแน่นอน” นายตนัยศิริ เผย
สถานการณ์ลุ้นแชมป์ประจำปีในรุ่นใหญ่ที่สุดของไทย ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี อดีตนักบิดโมโตทรีชาวไทยอย่าง “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ ผู้ชนะสนามแรกจาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ รั้งจ่าฝูงมี 25 คะแนน เหนือทีมเมทอย่าง “แชมป์” ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ รองจ่าฝูงเพียง 5 คะแนนเท่านั้น ส่วนอันดับ 3 เป็นหนึ่งในนักบิดมากประสบการณ์คือ “บอล” จักรกฤษณ์ แสวงสวาท จาก อีสต์ เอ็นเจที เรซซิ่ง ทีม ตามหลัง 9 คะแนน
ส่วน “ซีเค” ชัยวิชิต นิสกุล จาก ทีเอ็นพี มอเตอร์สปอร์ต และ “ซุป” อนุชา นาคเจริญศรี อดีตแชมป์ประเทศไทยจาก ตาล เรซซิ่ง คอนเน็คต์ ในรถแข่งบีเอ็มดับเบิลยูเป็นครั้งแรก ยังคงเป็นตัวแปรที่น่ากลัวสำหรับการแข่งขันในรุ่นนี้ โดยจะต้องจับตาสถานการณ์การพัฒนารถแข่งของสองคน ว่าจะสามารถขยับขึ้นมาสู่ในกลุ่มแถวหน้าได้หรือไม่
ด้านสถานการณ์ในรุ่น ซูเปอร์สต็อก 1,000 ซีซี “นทีธาร ทองโคตร” จาก ทีเอ็นพี มอเตอร์สปอร์ต ครองความได้เปรียบบนตารางแชมเปียนชิพ มีทั้งสิ้น 25 คะแนน เหนือคู่แข่งคนสำคัญอย่าง เพชราวุธ เพชรช่วย จาก จีพี เรซซิ่ง อุดรธานี เพียง 5 แต้มเท่านั้น ส่วน สิรภพ พูลศรี ดาวรุ่งจาก ไบค์สตอรี่ บริดจสโตน บีบีเค ยูนิแบ็ต เรซซิ่ง ทีม รั้งอันดับ 3 ตามหลัง 9 คะแนน
ขณะที่การลุ้นแชมป์ในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี ถือเป็นหนึ่งในไฮไลต์ของปีนี้ โดย “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช นักบิดมากฝีมือจาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ประเดิมคว้าชัยชนะเรซแรกมาครอง พร้อมกับรั้งจ่าฝูงโดยมีทั้งสิ้น 25 คะแนน เหนือทีมเมทรุ่นน้อง “นิว” ปัณณสรณ์ แก้วสนธิ 5 คะแนน ซึ่งคู่นี้มีโอกาสแย่งแชมป์ไปจนถึงสนามสุดท้าย
ด้าน “ฟอง” คณาทัต ใจมั่น ถือเป็นตัวแปรสำคัญจาก ยามาฮ่า ไฮสปีด เรซซิ่ง ทีม รั้งอันดับ 3 มี 16 คะแนน นอกจากนี้ แดเนียล มุนยอช นักบิดสแปนิชจาก วินนี่ ปกครอง แอ็คเซนต์ ทิมเบอร์ เรซซิ่ง ทีม ก็น่าสนใจอย่างมากกับปีแรกที่แข่งขันในไทย รวมไปถึงอดีตแชมป์เอเชียอย่าง “ต๋ง” พีรพงศ์ บุญเลิศ จาก ยามาฮ่า เควายบี ไออาร์ซี ดี.ไอ.ดี. เอ็นบี น้ำบาน โมลิน เคสปีด ลาดกระบัง โก๋ท่ามะกา เช่นกัน
สำหรับในรุ่นจูเนียร์อย่าง ซูเปอร์สปอร์ต 400 ซีซี “การ์ฟิว – วัชรินทร์ ทับทิมอ่อน” ยอดนักบิดดาวรุ่งจาก อีสต์ เอ็นเจที เรซซิ่ง ทีม เปิดตัวกับการแข่งขันในรุ่นนี้อย่างสวยงาน ด้วยการคว้าชัยชนะ และรั้งจ่าฝูงโดยมี 25 คะแนนเต็ม เหนือนักบิดมากประสบการณ์อย่าง รัฐพงษ์ บุญเลิศ จาก ยามาฮ่า เควายบี ไออาร์ซี ดี.ไอ.ดี. เอ็นบี น้ำบาน โมลิน เคสปีด ลาดกระบัง โก๋ท่ามะกา ซึ่งเป็นคู่ต่อสู้ในคลาส โปร
ทว่าในคลาส ซูเปอร์สปอร์ต 400 ซีซี (SS1) กลายเป็นดาวรุ่งอย่าง ภาสกร แสนหลวง จาก ยามาฮ่า ดัคแฮมส์ ดำ เรซซิ่ง ทีม ที่ต้องขับเคี่ยวกับ ดรัณภพ ทองย้อย จาก อีสต์ เอ็นเจที เรซซิ่ง ทีม และ ธีร์ธวัช คุณภู่ จาก วาโวลีน เอสเอ็มเอส เรซซิ่ง ทีม รวมถึง ภณณัฎฐ์ นิลภา จาก เน็กซ์เตอร์ โมริเท็ค เอวีอาร์พี เรซซิ่ง ด้วย
ทั้งนี้ ศึก โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปียนชิพ 2023 สนามที่ 2 จะเข้าสู่โปรแกรมการซ้อมในวันศุกร์ที่ 2 มิถุนายน ก่อนจะจับเวลารอบควอลิฟาย เพื่อจัดอันดับสตาร์ตในวันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน และดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 4 มิถุนายนนี้
แฟนความเร็วซื้อบัตรได้ที่ทางขึ้นแกรนด์สแตนด์ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต บุรีรัมย์ บัตรที่นั่งแกรนด์สแตนด์ ราคา 100 บาท / 1 วัน, บัตรวีไอพี 500 บาท/วัน (จำหน่ายบัตรวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ 8-9 เมษายน 2566 เท่านั้น)
พิเศษสำหรับผู้ที่ซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขัน สามารถสแกน QR Code รับคะแนนสะสม เพื่อร่วมสนุกลุ้นรับรางวัลบัตร VIP Lounge โค้ง 12 สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ชม MotoGP 2023 แบบ Exclusive จำนวน 15 รางวัล รางวัลละ 2 ใบ มูลค่ารวม 1,200,000 บาท กับกิจกรรม “Chang Friend Club Passport” โดยจุดสแกนรับคะแนนสะสมมี 2 จุดคือ บริเวณโดมแก้ว และทางขึ้นแกรนด์สแตนด์ฝั่งทิศตะวันตก เฉพาะวันอาทิตย์เท่านั้น