ทดลองขับ All New Mazda CX-30 เส้นทาง จ.ขอนแก่น – พิษณุโลก

By / 5 years ago / Test Drive / No Comments
ทดลองขับ  All New Mazda CX-30  เส้นทาง จ.ขอนแก่น – พิษณุโลก

By จุฑารัตน์ อุ้มญาติ บรรณาธิการบริหารอำนวยการ www.missside.com

แน่นอนสำหรับค่ายมาสด้า ที่เดินหน้ารถอเนกประสงค์อย่างต่อเนื่อง อย่างเช่น มาสด้า CX-3 , CX-5 และ CX-8  มาถึงเจ้ามาสด้า All New Mazda CX-30 ที่มาแทรก หรือวางตำแหน่งระหว่าง CX-3 กับ CX-5  หลังจากที่เปิดตัวกันไปเมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา  มาทริปไดร์ฟครั้งนี้ ทางค่ายมาสด้าใช้เส้นทางให้กลุ่มสื่อมวลชนสายรถยนต์ออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่ม 1 ขับจาก จ.ขอนแก่น – จ.พิษณุโลก และ อีกกลุ่ม จาก พิษณุโลก – ขอนแก่น  ระยะทาง 328 -330 กิโลเมตร สำหรับรถยนต์ครอสโอเวอร์เอสยูวี  All New Mazda CX-30 มีมา 3 รุ่นย่อย รุ่น C , S และรุ่นท้อป SP

ภายนอก

มาสด้ามากับ โคโดะดีไซน์ ที่โดนใจคนไทยไปหลายรุ่น  เริ่มจากโครงสร้างตัวถังมาจากมาสด้า 3 ล่าสุด  คือใช้แพลตฟอร์มเดียวกันเลย แต่ขนาดจะใหญ่กว่ามาสด้า CX-3 ขึ้นมาหน่อย  ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED และไฟหน้าปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ , รวมถึงระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ,  โคมไฟหน้าและท้ายโฉบเฉียว พร้อมไฟ Daytime Running Lamp ,  ที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้าปรับอัตโนมัติ , ประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติ , ไฟท้ายแบบ LED  พร้อมระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหลัง 4 จุด พร้อมกล้องมองหลัง และล้ออัลลอย มาทั้ง 16 นิ้ว และ 18 นิ้ว 

ภายในห้องโดยสาร

เริ่มจากเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทางพร้อมระบบบันทึกตำแหน่งได้ 2 ตำแหน่ง 

หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้า / มาตรวัดความเร็วแบบดิจิตอล ขนาด 7 นิ้ว , ส่วนหน้าจอสี Center Display ขนาด 8.8 นิ้ว พร้อมปุ่มควบคุม และมากับ Apple CarPlay, ระบบบันเทิง Mazda Connect  ติดตั้งลำโพง 12 ตัว จาก BOSE,  พร้อมด้วยหลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า ,  สำหรับช่องแอร์ของผู้โดยสารหลังมีมาให้ , ระบบเบรกมือไฟฟ้า พร้อม Auto Hold   และถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง 

เครื่องยนต์  บล็อกเดียวกับมาสด้า 3 

เครื่องยนต์สกายแอคทีฟ-จี ( SKYACTIV-G) เบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร  ให้กำลัง 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที  พร้อมชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมแมนนวลโหมดในรุ่น C ถ้าในรุ่นท้อปจะมี Paddle Shift ที่พวงมาลัยมาให้  และยังให้ตัวเลขประหยัดน้ำมัน 15.4 กิโลเมตรต่อลิตร รองรับน้ำมันได้ถึง E85  และจุดเด่นมากนั่นคือระบบ GVC Plus หรือระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง   สำหรับช่วงล่างพื้นฐานเดียวกับ All New Mazda 3 แต่มีการปรับโช้ค และสปริงใหม่ ด้วยมาสด้า CX-30 มีตัวถังที่สูงกว่า 

ความปลอดภัย

กับเทคโนโลยี i-Activsense  มาถึง 12 รายการ อย่างเช่น

ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติแบบ Advanced  

ระบบช่วยเบรกและหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง 

ระบบช่วยหยุดรถเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง

ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ

ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง 

ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน

ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง

ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน

ระบบช่วยควบคุมให้รถอยู่ในเลน

ระบบแจ้งเตือนเมื่อเมื่อยล้าขณะขับขี่ 

ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ 

ระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า 

การทดสอบขับครั้งนี้  By แหม่มสาวเรื่องรถ

เส้นทางที่ลองขับครั้งนี้ของแหม่มรับภาระกิจจากจังหวัดขอนแก่น ไปยังจังหวัดพิษณุโลก  เรารับฟังข้อมูลรถยนต์ และเส้นทางที่ใช้ในครั้งนี้   มาเริ่มกันที่เข้าไปนั่ง เบาะนั่งผู้ขับซึ่งดีไซน์โอบกระชับตามสรีระ ตามที่ทางค่ายมาสด้าให้ความสำคัญศูนย์กลางอยู่ที่คนขับและสรีระร่างกาย  มาที่การใช้อัตราเร่งใช้ได้ทันใจ จังหวะแซงตอบสนองได้ไวมั่นใจ  การเข้าโค้งเราสัมผัสได้ถึงระบบ GVC Plus  หรือ G-Vectoring Control Plus  จะเข้ามาช่วยได้ดีด้วยการช่วยปรับแรงบิดของเครื่องยนต์ตามการหักเลี้ยวของพวงมาลัย ควบคู่ไปกับการเบรกที่เหมาะสม ลดการแก้พวงมาลัยน้อยลง  และเมื่อออกจากโค้งโดยคืนพวงมาลัยกลับไปที่ตำแหน่งกึ่งกลาง GVC Plus จะเพิ่มแรงเบรกเพียงเล็กน้อยที่ล้อด้านนอก จะช่วยให้รถกลับวิ่งตรงเหมือนเดิมได้ง่าย  ระบบสามารถรับรู้ถึงการเปลี่ยนอย่างต่อเนื่องของการหักเหจากการโคลงของตัวรถ และการกระดกหน้า-หลัง  ทำให้ผู้ขับได้อย่างเนียนๆ สบายๆ เกาะถนน    ช่วงขึ้น-ลงทางลาดเขา ใช้ Paddle Shift  ขับไหลได้ตามเกียร์ต่อเนื่อง  ภายในห้องโดยสารเงียบ  ตรงด้านหลังเบาะสามารถพับได้ 60 : 40 

สำหรับสิ่งที่รู้สึกโดยส่วนตัว ก็จะมีเรื่อง

ระบบเบรกต้องปรับจูนให้น้ำหนักเท้ามากสักนิดยิ่งสำหรับสาวๆ หากขับไม่เร็วมากถือว่ายังได้เนียนๆ แต่ถ้าความเร็วสูงต้องปรับจูนน้ำหนักเท้ามากขึ้นในเบรกหน่อย  และไม่มีช่องเสียบ USB ด้านหลัง