“ E-Project By FIA และ รยสท.” ประกาศความพร้อมจัดการแข่งขัน Thailand E-Project 2020
รายการ Thailand E-Project 2020 หรือการแข่งขัน Motor Sports สายพลังงานสะอาด ประกอบไปด้วย การแข่งขัน 1.E-Kart (รถคาร์ทไฟฟ้า) 2. E-Racing (เกม Simulator) และ 3. E-Auto Khana (รถยนต์ไฟฟ้า) โดยมุ่งเน้นให้เกิดการลดการใช้พลังงานน้ำมัน แล้วหันมาใช้พลังงานไฟฟ้าซึ่งเป็นพลังงานสะอาดทดแทนโดยในปีนี้เป็นการแข่งขันต่อเนื่องปีที่ 2 แล้ว โดยได้จัดพิธีแถลงข่าวการจัดการแข่งขันอย่างเป็นทางการไปแล้ว ณ ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย (ร.ย.ส.ท.) เมื่อ วันที่ 26 ตุลาคม ที่ผ่านมา
คุณธีระ บุนนาค อุปนายกสมาคมฯ ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย (ร.ย.ส.ท.) ได้กล่าวถึงที่มาของโครงการ Thailand E-Project 2020 “ตามที่ FIA หรือ สหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ ได้มีนโยบายผลักดัน และสนับสนุนให้สมาชิกของสหพันธ์ หันมาให้ความสนใจในการใช้พลังงานสะอาด หรือพลังงานไฟฟ้า เป็นพลังงานทางเลือกในการจัดการแข่งขัน Motor Sports ตั้งแต่ปี 2019 ที่ผ่านมา ในส่วนของประเทศไทยเอง ก็ได้ตอบรับนโยบายดังกล่าว โดยการจัดตั้งคณะทำงาน E-Project ขึ้น และได้ทำการจัดการแข่งขัน E-Project ขึ้นมาเป็นครั้งแรกในงาน Thailand Super Series 2019 ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
สำหรับในปีนี้ การจัดการแข่งขัน Thailand E-Project 2020 จะถูกจัดขึ้น ณ IMPACT Speed Park เมืองทองธานี ในวันที่ 7 และ 8 พฤศจิกายน 2563 โดยในวันที่ 7 พฤศจิกายน จะเป็นการแข่งขันในรอบ Media Challenge ซึ่งเป็นการแข่งขันเฉพาะกลุ่มนักข่าว และ สื่อมวลชน เท่านั้น ส่วนในวันที่ 8 พฤศจิกายน จะเป็นการแข่งขันในรอบบุคคลทั่วไป ซึ่งในปีนี้จะเปิดรับนักแข่งจำกัดเพียง รอบละ 50 คนเท่านั้น”
ด้าน คุณพอลล์ กาญจนภาสน์ ตัวแทนสถานที่การจัดงาน IMPACT Speed Park กล่าวถึงความพร้อมของสถานที่ “ การแข่งขัน Thailand E-Project 2020 ที่จะถูกจัดขึ้น ณ IMPACT Speed Park เมืองทองธานี นั้น จะมีการแบ่งพื้นที่ของการจัดการแข่งขันออกเป็นทั้งหมด 3 โซนหลักๆ โซนที่ 1 คือ ส่วนของการแข่งขัน E-Kart ซึ่งจะจัดขึ้นในพื้นที่ของ IMPACT Speed Park และใช้รถ Kart ไฟฟ้าและระบบการจับเวลาที่ได้มาตรฐาน โซนที่ 2 คือส่วนของการแข่งขัน E-Racing จะจัดขึ้นในพื้นที่ของ ห้องรับรอง ของ IMPACT Speed Park ซึ่งในพื้นที่จัดการแข่งขันของทั้ง 2 โซนนี้ จะใช้ในการแข่งขันช่วงเช้า ส่วน ในช่วงบ่าย พื้นที่จัดการแข่งขันโซนที่ 3 คือส่วนของการแข่งขัน E-Auto Khana หรือการแข่งขันรถยนต์ไฟฟ้า จะจัดขึ้นบริเวณพื้นที่ ลาน Lake Side 3
สำหรับการเตรียมความพร้อมของมาตรการ ป้องกัน COVID-19 นั้นทาง IMPACT Speed Park มีระบบการป้องกันอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดให้มี การลงชื่อ และลงทะเบียนไทยชนะ เจลแอลกอฮอล์ การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย รวมไปถึงการจัดให้มี Social Distancing และการทำความสะอาดอุปกรณ์ที่ต้องสัมผัสร่วมกันอย่างเหมาะสม”
ส่วนคุณอโณทัย เอี่ยมลำเนา กรรมการบริหาร /ประธานเจ้าหน้าปฏิบัติการด้านพัฒนาธุรกิจบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และ ประธานอนุกรรมการ Digital Motor Sport ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย (ร.ย.ส.ท.) กล่าวถึงภาพรวมของการจัดงาน Thailand E-Project 2020 “การจัดงาน Thailand E-Project 2020 ที่จะเกิดขึ้นในระหว่างวันที่ 7-8 พฤศจิกายน 2563 นี้ เป็นกิจกรรมที่เราทำต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 2 แล้ว เนื่องจากกระแสตอบรับจากการจัดงานครั้งแรกในช่วงการแข่งขัน Thailand Super Series ( บางแสน กรังด์ปรีซ์ ) เมื่อปี 2019 นั้นดีมาก เพราะมีผู้สมัครเข้าร่วมการแข่งขันเต็มจำนวน 30 คนภายใน 1 ชั่วโมงครึ่งหลังจากเปิดรับสมัคร สำหรับในปีนี้ เราจึงเพิ่มจำนวนของผู้เข้าแข่งขันจาก 30 คน เป็นรอบละ 50 คน โดยในรอบแรกวันที่ 7 พฤศจิกายน จะเป็นการจัดการแข่งขันในรอบ Media Challenge ซึ่งเป็นรอบของสื่อมวลชนที่สนใจ และในรอบที่ 2 วันที่ 8 พฤศจิกายน เป็นรอบของบุคคนทั่วไปซึ่งเปิดรับสมัครอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ที่ผ่านมา และจะปิดรับสมัครในวันที่ 1 พฤศจิกายน นี้ โดยในรอบบุคคลทั่วไปจะมีค่าสมัครเพียง 1,000 บาท (รวมการแข่งขันทั้ง 3 ประเภท)
ในส่วนของรูปแบบการแข่งขันทั้ง 3 ประเภท อันได้แก่ การแข่งขัน E-Kart ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทาง IMPACT Speed Park , E-Racing หรือเกม Simulator จาก GP eRacing บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด(มหาชน) และ E-Auto Khana ซึ่งได้รับการสนับสนุนรถยนต์ BMW i3 ซึ่งเป็นรถยนต์ EV พลังงานไฟฟ้า 100% จากบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จํากัด โดยทุกประเภทจะเป็นการแข่งขันในรูปแบบ Time Attack จับเวลาหาผู้ชนะจากผู้ที่มีความเร็ว ทำเวลาได้น้อยที่สุดในแต่ละประเภท มีถ้วยรางวัลให้ในแต่ละประเภท และนำเอาเวลาการแข่งขันของทุกประเภทมาคิดคะแนนรวม หาผู้ที่ทำความเร็วรวมในทุกประเภทอีกครั้ง โดยผู้ที่ชนะเลิศคะแนนรวม จะได้รับถ้วยรางวัลและเงินรางวัล 10,000 บาท อันดับที่ 2 ได้ รับถ้วยรางวัลและเงินรางวัล 8,000 บาท อันดับที่ 3 ได้ รับถ้วยรางวัลและเงินรางวัล 5,000 บาท”
ท้ายนี้ทางคณะผู้จัดงาน อยากจะฝากทุกภาคส่วนให้หันมาให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานสะอาด พลังงานทางเลือก ให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อช่วยกันลดปัญหามลภาวะโลกร้อนหรือ Climate Change และ ลดปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5 ที่เกิดจากท่อไอเสียรถยนต์ ทั้งนี้ โครงการ Thailand E-Project 2020 ก็ถือว่าเป็นโครงการที่ ราชยานยนต์สมาคมฯ เห็นความสำคัญในปัญหาดังกล่าว และไม่สามารถนิ่งเฉยได้ จึงร่วมกันผลักดันให้เกิดกิจกรรมการแข่งขันยานยนต์พลังงานสะอาดนี้ขึ้น และหวังว่าทุกท่านจะให้การสนับสนุนโครงการที่ดีโครงการนี้ให้ประสบความสำเร็จต่อไป