ในรายงานเทรนด์สีแฟชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2025/2026

มิคาเอล เมาเออร์ (Michael Mauer) รองประธานบริหาร Style Porsche กล่าว “ดีไซเนอร์และนักออกแบบกราฟิกทุกคนต่างรู้จักบัตรสี Pantone (Pantone color cards) เหมือนกับที่ ปอร์เช่ 911 (Porsche 911) เป็นแบบฉบับของรถสปอร์ตทุกคัน ระบบมาตรฐานสีของบริษัทในสหรัฐอเมริกานี้เป็นงานอ้างอิงสำหรับทุกคนที่ใช้สีในการออกแบบมาเป็นเวลากว่า 60 ปี เรารู้สึกภูมิใจที่เป็นแบรนด์นอกรายแรกที่ได้รับการนำเสนอในรายงานเทรนด์สีแฟชั่นของ Pantone สีเทอร์โบไนท์ (Turbonite) นั้นเป็นสีที่ไม่เหมือนใคร เป็นสีเทาที่ทันสมัย แข็งแกร่ง แต่ไม่ฉูดฉาด ซึ่งทำให้รถยนต์เทอร์โบ (Turbo) ของเรามีลักษณะที่โดดเด่นและมั่นใจได้”

กลุ่มเป้าหมายของการรายงานเทรนด์สีแฟชั่นของ Pantone ประกอบด้วยคนในวงการออกแบบและแฟชั่นทั่วโลก โดยเทรนด์สีที่รายงานคาดการณ์ไว้จะมีอิทธิพลอย่างมากต่อคอลเลกชันในอนาคต ลอรี เพรสแมน (Laurie Pressman) รองประธานของสถาบันสี Pantone กล่าวว่า “การออกแบบรถยนต์และแฟชั่นได้สร้างแรงบันดาลใจให้กันและกันมานานหลายปี นักวิเคราะห์เทรนด์จะคอยจับตามองอยู่ตลอดว่ามีอะไรใหม่และอะไรที่สามารถนำมาปรับใช้ได้ ในความคิดของเรา สีเทอร์โบไนท์ (Turbonite)มีศักยภาพที่จะกลายเป็นสีไอคอนิกและกำหนดการรับรู้ของแบรนด์ปอร์เช่ (Porsche)ในอีกหลายปีข้างหน้า สีเทาเมทัลลิกนี้มีความโดดเด่นและน่าสนใจ เราจึงรู้สึกยินดีที่จะมอบรางวัลให้กับความกล้าหาญในการพัฒนาสีพิเศษนี้ โดยรวมสี สีเทอร์โบไนท์ (Turbonite)  เข้าไว้ในรายงานเทรนด์สีแฟชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2025/2026 ของ Pantone”

ในเดือนสิงหาคม ปอร์เช่ (Porsche)ได้เฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปีของ 911 เทอร์โบ (911 Turbo)ด้วยรถยนต์รุ่นพิเศษเพื่อระลึกถึงรถยนต์รุ่นเทอร์โบ  (Turbo) ทั้งหมด โดยภายในงาน ‘Porsche x Pantone’ ที่จะจัดขึ้นในงาน NYFW จะมีการแสดงรถยนต์รุ่นเฉลิมฉลองการครบรอบสุดพิเศษ 2 รุ่นคือ 911 เทอร์โบ เอส (911 Turbo S)และ ไทคานน์ เทอร์โบ เอส (Taycan Turbo S)ทั้งสองรุ่นนี้ใช้สีเทอร์โบไนท์ (Turbonite)  ซึ่งเป็นสีใหม่ที่พัฒนาขึ้นโดยร่วมมือกับ Pantone และแสดงให้เห็นว่าไม่ว่าจะเป็นรูปทรงของตัวรถหรือแนวคิดการขับขี่อย่างไร สีเทอร์โบไนท์ (Turbonite)ก็สามารถทำให้รถยนต์ทุกแบบดูสวยงาม ทันสมัย และมีเอกลักษณ์ได้

เกี่ยวกับ เทอร์โบไนท์ (Turbonite)

สีเทอร์โบไนท์ (Turbonite)เป็นสีเทาที่มีความหรูหราและทันสมัย โดยมีองค์ประกอบของสีทองที่ช่วยให้เกิดเอฟเฟกต์เมทัลลิกที่โดดเด่น ชั้นบนสุดของสีเทอร์โบไนท์ (Turbonite)มีผิวสัมผัสแบบซาติน-แมตต์ สีเทอร์โบไนท์ (Turbonite)ถูกนำมาใช้กับรถยนต์ ปอร์เช่ เทอร์โบ (Porsche Turbo)รุ่นต่าง ๆ โดยใช้เป็นสีสำหรับตัวอักษรด้านหลังของรถยนต์ ไฟหน้า และกรอบกระจกด้านข้าง นอกจากนี้ ยังมีการใช้สีเทอร์โบไนท์ (Turbonite)เป็นสีหลักในโลโก้พิเศษสำหรับรุ่นสูงสุดของรถยนต์ปอร์เช่ (Porsche)ซึ่งโลโก้นี้จะอยู่ที่ด้านหน้าของรถยนต์ ล้ออัลลอยน้ำหนักเบา และพวงมาลัย สำหรับบางรุ่น อาจมีการใช้สีเทอร์โบไนท์ (Turbonite)ในส่วนอื่นๆ เช่น แผ่นตกแต่งที่กันชนหน้า ก้านล้อ หรือแผ่น Airblades ในล้ออัลลอยน้ำหนักเบา

นอกจากส่วนภายนอกแล้ว สีเทอร์โบไนท์ (Turbonite)ยังถูกนำมาใช้กับส่วนประกอบภายในของไทคานน์ (Taycan)เช่น แถบตกแต่งและสายเข็มขัดนิรภัย รวมถึงตัวควบคุมบางอย่าง เช่น สวิตช์โหมดการขับขี่และตัวควบคุมเครื่องปรับอากาศ เมื่อใช้กับภายในสีดำ สีเทอร์โบไนท์ (Turbonite)จะใช้เป็นสีตัดกันสำหรับตะเข็บตกแต่งบนเบาะนั่ง แผงประตู แผงมาตรวัดควบคุม และพรมปูพื้น

เกี่ยวกับ โปรแกรมตัวเลือกสีของปอร์เช่

เริ่มต้นปี 2024 ปอร์เช่ได้ปรับปรุงและเพิ่มอารมณ์ความรู้สึกให้กับสีสันของรถยนต์ทุกรุ่น โดยโทนสีถูกแบ่งออกเป็น 4 หมวดหมู่ ได้แก่ คอนทราสต์ (Contrasts), เฉดสี (Shades), ความฝัน (Dream) และตำนาน (Legends) ซึ่งเป็นชื่อของหมวดหมู่ที่ใช้กับสีมาตรฐานสีเมทัลลิก และสีพิเศษก่อนหน้านี้ การตั้งชื่อแบบนี้สะท้อนถึงความหลากหลาย และชื่อกลุ่มสีที่มีอารมณ์เหล่านี้ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกสีได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

ควบคู่ไปกับโปรแกรมสีมาตรฐาน ผู้ผลิตรถสปอร์ตยังเสนอบริการปรับแต่งสีรถยนต์ตามความต้องการที่มีความเป็นเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้นด้วย ‘Paint to Sample’ และ ‘Paint to Sample Plus’ สำหรับการโปรแกรม ‘Paint to Sample’ เน้นการนำเสนอสีคลาสสิกของปอร์เช่ที่เป็นที่รู้จักจากประวัติศาสตร์ของแบรนด์ ปัจจุบันมีสีให้เลือกมากกว่า 170 สีในทุกรุ่นของรถยนต์ สำหรับ ‘Paint to Sample Plus’ ยังมีตัวเลือกในการสรรสร้างสีที่มีความเฉพาะตัวสูง ช่วยให้ลูกค้าสามารถสร้างสีที่เป็นเอกลักษณ์ตามความต้องการของตนเองได้

เกี่ยวกับรายงานเทรนด์สีแฟชั่นของ Pantone®

รายงานเทรนด์สีแฟชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2025/2026 ของ Pantone นำเสนอสีสันที่ได้รับการคัดเลือกจากระบบสี Pantone Fashion, Home + Interiors ซึ่งเป็นระบบมาตรฐานสีที่ได้รับการยอมรับและใช้กันอย่างแพร่หลายในโลกของแฟชั่น, สิ่งทอ, ที่อยู่อาศัย และการออกแบบตกแต่งภายใน ทุกฤดูกาลสถาบันสี Pantone เผยแพร่รายงานเทรนด์สีแฟชั่นของ Pantone® เป็นรายงานครึ่งปีที่คาดการณ์สีสันที่สำคัญสำหรับฤดูกาลถัดไป โดยนำเสนอสีสันที่คาดว่าจะมีความสำคัญในงานแฟชั่นวีคนิวยอร์กและงานแฟชั่นวีกลอนดอน ตลอดทั้งฤดูกาล รายงานเทรนด์สีแฟชั่นของ Pantone เป็นแหล่งอ้างอิงสีสำหรับผู้ค้าปลีก แบรนด์ นักออกแบบแฟชั่น และสื่อมวลชน

เกี่ยวกับ Pantone

Pantone เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสีสันที่ช่วยให้แบรนด์และผู้ผลิตสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับสีได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพในทุกขั้นตอนของกระบวนการทำงาน นักออกแบบและผู้ผลิตกว่า 10 ล้านคนทั่วโลกอาศัยผลิตภัณฑ์และบริการของ Pantone เพื่อช่วยกำหนด สื่อสาร และควบคุมสีจากแรงบันดาลใจไปจนถึงการตระหนักถึงเป้าหมาย โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงของ X-Rite เพื่อให้ได้สีที่สม่ำเสมอในวัสดุและการตกแต่งต่างๆ สำหรับงานกราฟิก แฟชั่น และการออกแบบผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์มาตรฐานของ Pantone ประกอบด้วยเครื่องมือระบุสีและการทำงานแบบดิจิตอลและแบบกายภาพ สถาบันสี Pantone™ ให้บริการการปรึกษาเกี่ยวกับมาตรฐานสีของแบรนด์ การระบุตัวตนของแบรนด์ และการคาดการณ์เทรนด์สี รวมถึงสีแห่งปีของ Pantone รายงานเทรนด์สีแฟชั่นบนรันเวย์ จิตวิทยาของสี และอื่นๆ Pantone B2B Licensing นำระบบสี Pantone มาใช้ในผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ช่วยให้ผู้ได้รับอนุญาตสามารถสื่อสารและทำซ้ำค่าสี Pantone ที่ได้รับการรับรอง และปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของผู้ใช้ Pantone Lifestyle นำสีและการออกแบบมารวมกันในเสื้อผ้า บ้าน และอุปกรณ์เสริมต่างๆ

ท่านสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงสื่อประชาสัมพันธ์ วิดีโอ และภาพถ่าย ได้ที่ Porsche Newsroom: newsroom.porsche.com

อัตราการบริโภคเชื้อเพลิงและการปล่อยมลพิษที่ระบุเป็นช่วง ไม่ใช่ค่าของรถยนต์คันใดคันหนึ่ง และไม่ใช่ส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอ ค่าเหล่านี้ใช้เพื่อเปรียบเทียบระหว่างประเภทรถยนต์ที่แตกต่างกันเท่านั้น อุปกรณ์และอุปกรณ์เสริม (อะไหล่ ขนาดยาง ฯลฯ) สามารถเปลี่ยนแปลงพารามิเตอร์หรือการวัดค่าที่เกี่ยวข้องของรถยนต์ เช่น น้ำหนัก การต้านทานการหมุน และอากาศพลศาสตร์ ปัจจัยเหล่านี้ รวมถึงสภาพอากาศ สภาพการจราจร และพฤติกรรมการขับขี่ สามารถส่งผลต่ออัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง/ไฟฟ้า การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ระยะทาง และประสิทธิภาพของรถยนต์

เกี่ยวกับปอร์เช่ ประเทศไทย โดย เอเอเอส กรุ๊ป

ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย เอเอเอส กรุ๊ป ผู้นำเข้ารถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการ โดยได้รับการแต่งตั้ง จากโรงงานปอร์เช่ ประเทศเยอรมนี ตั้งแต่ปี 2536 ได้สร้างความเชื่อมั่นในด้านการดูแลหลังการขายให้กับ ลูกค้าปอร์เช่ทุกท่านด้วยทีมวิศวกรที่ผ่านการทดสอบระดับเหรียญทอง (ZPT3 Gold Theory Test & Recertification) สะท้อนให้เห็นถึง ความสำคัญ ในเรื่องการให้บริการหลังการขาย  โดย เอเอเอส กรุ๊ปฯ ทุ่มงบการอบรมบุคลากรให้มีคุณภาพสูงสุด ตามนโยบาย หลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอส ดูแลทั้งรถ และคุณ AAS Looking after YOU and your CAR” เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่า “AAS The Name you can Trust” ซึ่งพิสูจน์  ให้ท่านได้เห็นแล้วตลอดระยะเวลาดำเนินงานมากกว่า 30 ปี ปัจจุบัน ปอร์เช่ ประเทศไทย มีโชว์รูมและศูนย์บริการเปิดให้บริการ 4 แห่ง คือ Porsche Centre Bangkok , Porsche Centre Pattanakarn, Porsche Studio Siam Paragon ชั้น 2 ,Porsche Studio Bangkok ICONSIAM ชั้น 1 และขยายเพิ่มอีก 3 แห่งในอนาคตอันใกล้ ได้แก่ ศูนย์ปอร์เช่ กัลปพฤกษ์, ศูนย์ปอร์เช่ บางนา และศูนย์ปอร์เช่ พัทยา