ทดลองขับ All New Mazda CX-30 เส้นทาง จ.ขอนแก่น – พิษณุโลก
By จุฑารัตน์ อุ้มญาติ บรรณาธิการบริหารอำนวยการ www.missside.com
แน่นอนสำหรับค่ายมาสด้า ที่เดินหน้ารถอเนกประสงค์อย่างต่อเนื่อง อย่างเช่น มาสด้า CX-3 , CX-5 และ CX-8 มาถึงเจ้ามาสด้า All New Mazda CX-30 ที่มาแทรก หรือวางตำแหน่งระหว่าง CX-3 กับ CX-5 หลังจากที่เปิดตัวกันไปเมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา มาทริปไดร์ฟครั้งนี้ ทางค่ายมาสด้าใช้เส้นทางให้กลุ่มสื่อมวลชนสายรถยนต์ออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่ม 1 ขับจาก จ.ขอนแก่น – จ.พิษณุโลก และ อีกกลุ่ม จาก พิษณุโลก – ขอนแก่น ระยะทาง 328 -330 กิโลเมตร สำหรับรถยนต์ครอสโอเวอร์เอสยูวี All New Mazda CX-30 มีมา 3 รุ่นย่อย รุ่น C , S และรุ่นท้อป SP
ภายนอก
มาสด้ามากับ โคโดะดีไซน์ ที่โดนใจคนไทยไปหลายรุ่น เริ่มจากโครงสร้างตัวถังมาจากมาสด้า 3 ล่าสุด คือใช้แพลตฟอร์มเดียวกันเลย แต่ขนาดจะใหญ่กว่ามาสด้า CX-3 ขึ้นมาหน่อย ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED และไฟหน้าปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ , รวมถึงระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ, โคมไฟหน้าและท้ายโฉบเฉียว พร้อมไฟ Daytime Running Lamp , ที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้าปรับอัตโนมัติ , ประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติ , ไฟท้ายแบบ LED พร้อมระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหลัง 4 จุด พร้อมกล้องมองหลัง และล้ออัลลอย มาทั้ง 16 นิ้ว และ 18 นิ้ว
ภายในห้องโดยสาร
เริ่มจากเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทางพร้อมระบบบันทึกตำแหน่งได้ 2 ตำแหน่ง
หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้า / มาตรวัดความเร็วแบบดิจิตอล ขนาด 7 นิ้ว , ส่วนหน้าจอสี Center Display ขนาด 8.8 นิ้ว พร้อมปุ่มควบคุม และมากับ Apple CarPlay, ระบบบันเทิง Mazda Connect ติดตั้งลำโพง 12 ตัว จาก BOSE, พร้อมด้วยหลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า , สำหรับช่องแอร์ของผู้โดยสารหลังมีมาให้ , ระบบเบรกมือไฟฟ้า พร้อม Auto Hold และถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง
เครื่องยนต์ บล็อกเดียวกับมาสด้า 3
เครื่องยนต์สกายแอคทีฟ-จี ( SKYACTIV-G) เบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลัง 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมแมนนวลโหมดในรุ่น C ถ้าในรุ่นท้อปจะมี Paddle Shift ที่พวงมาลัยมาให้ และยังให้ตัวเลขประหยัดน้ำมัน 15.4 กิโลเมตรต่อลิตร รองรับน้ำมันได้ถึง E85 และจุดเด่นมากนั่นคือระบบ GVC Plus หรือระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง สำหรับช่วงล่างพื้นฐานเดียวกับ All New Mazda 3 แต่มีการปรับโช้ค และสปริงใหม่ ด้วยมาสด้า CX-30 มีตัวถังที่สูงกว่า
ความปลอดภัย
กับเทคโนโลยี i-Activsense มาถึง 12 รายการ อย่างเช่น
ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติแบบ Advanced
ระบบช่วยเบรกและหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง
ระบบช่วยหยุดรถเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง
ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ
ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง
ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน
ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง
ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน
ระบบช่วยควบคุมให้รถอยู่ในเลน
ระบบแจ้งเตือนเมื่อเมื่อยล้าขณะขับขี่
ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ
ระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า
การทดสอบขับครั้งนี้ By แหม่มสาวเรื่องรถ
เส้นทางที่ลองขับครั้งนี้ของแหม่มรับภาระกิจจากจังหวัดขอนแก่น ไปยังจังหวัดพิษณุโลก เรารับฟังข้อมูลรถยนต์ และเส้นทางที่ใช้ในครั้งนี้ มาเริ่มกันที่เข้าไปนั่ง เบาะนั่งผู้ขับซึ่งดีไซน์โอบกระชับตามสรีระ ตามที่ทางค่ายมาสด้าให้ความสำคัญศูนย์กลางอยู่ที่คนขับและสรีระร่างกาย มาที่การใช้อัตราเร่งใช้ได้ทันใจ จังหวะแซงตอบสนองได้ไวมั่นใจ การเข้าโค้งเราสัมผัสได้ถึงระบบ GVC Plus หรือ G-Vectoring Control Plus จะเข้ามาช่วยได้ดีด้วยการช่วยปรับแรงบิดของเครื่องยนต์ตามการหักเลี้ยวของพวงมาลัย ควบคู่ไปกับการเบรกที่เหมาะสม ลดการแก้พวงมาลัยน้อยลง และเมื่อออกจากโค้งโดยคืนพวงมาลัยกลับไปที่ตำแหน่งกึ่งกลาง GVC Plus จะเพิ่มแรงเบรกเพียงเล็กน้อยที่ล้อด้านนอก จะช่วยให้รถกลับวิ่งตรงเหมือนเดิมได้ง่าย ระบบสามารถรับรู้ถึงการเปลี่ยนอย่างต่อเนื่องของการหักเหจากการโคลงของตัวรถ และการกระดกหน้า-หลัง ทำให้ผู้ขับได้อย่างเนียนๆ สบายๆ เกาะถนน ช่วงขึ้น-ลงทางลาดเขา ใช้ Paddle Shift ขับไหลได้ตามเกียร์ต่อเนื่อง ภายในห้องโดยสารเงียบ ตรงด้านหลังเบาะสามารถพับได้ 60 : 40
สำหรับสิ่งที่รู้สึกโดยส่วนตัว ก็จะมีเรื่อง
ระบบเบรกต้องปรับจูนให้น้ำหนักเท้ามากสักนิดยิ่งสำหรับสาวๆ หากขับไม่เร็วมากถือว่ายังได้เนียนๆ แต่ถ้าความเร็วสูงต้องปรับจูนน้ำหนักเท้ามากขึ้นในเบรกหน่อย และไม่มีช่องเสียบ USB ด้านหลัง
default