มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จัดการแข่งขันทักษะรถยนต์มิตซูบิชิ ครั้งที่ 23
ยกระดับบริการทุกด้านอย่างต่อเนื่อง เน้นสร้างความประทับใจสูงสุดให้กับลูกค้า
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จัดการแข่งขันทักษะรถยนต์ประจำปี ครั้งที่ 23 มุ่งเฟ้นหาสุดยอดบุคลากรใน 7 สายงานบริการ จากผู้จำหน่ายทั่วประเทศ ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการรับฟังเสียงของลูกค้า เพื่อนำมาพัฒนาและยกระดับความเป็นเลิศด้านบริการและกระตุ้นยอดขาย สะท้อนถึงเจตนารมณ์อันแน่วแน่ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในการพัฒนาคุณภาพการขายและบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง มุ่งสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า เพื่อมอบประสบการณ์อันน่าประทับใจที่สุดให้แก่ลูกค้า ในทุกๆ ครั้งที่ลูกค้าเข้ามารับบริการ
นายสาโรจน์ มะอาจเลิศ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานขายและบริการหลังการขาย บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การแข่งขันทักษะรถยนต์ มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาความรู้ ทักษะ และความสามารถของ
ที่ปรึกษาการขาย ที่ปรึกษางานบริการ เจ้าหน้าที่ลูกค้าสัมพันธ์ เจ้าหน้าที่อะไหล่ ช่างเทคนิคเช็กระยะ ช่างเทคนิควิเคราะห์ปัญหา และที่ปรึกษางานบริการศูนย์ซ่อมสีและตัวถัง ซึ่งเป็นพนักงานของผู้จำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิทุกสาขาทั่วประเทศ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมติวเข้มจากสถาบันการศึกษาและฝึกอบรม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย (Mitsubishi Motors Education Academy) โดยเรายังคงให้ความสำคัญกับการดำเนินงานที่ได้มาตรฐาน ขณะเดียวกันก็นำแนวคิด ‘รับฟังเสียงจากลูกค้า’ ด้วยความใส่ใจ มาใช้พัฒนาศักยภาพของพนักงานของผู้จำหน่าย เนื่องจากในท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาจะเป็นผู้สร้างความประทับใจสูงสุดให้กับลูกค้าในทุกๆ ครั้งที่ลูกค้าเข้ามารับบริการ ทุกขั้นตอนของการขาย และหลังการขาย”
การแข่งขันทักษะรถยนต์มิตซูบิชิ ประจำปีงบประมาณ 2566 ครอบคลุมบริการทุกประเภทใน 7 สายงาน โดยเริ่มจาก เมื่อลูกค้าแสดงความสนใจซื้อรถ พนักงานที่ปรึกษาการขาย (SC) จะเป็นผู้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ สอบถามความต้องการ และให้คำปรึกษาการใช้งานด้านต่าง ๆ แก่ลูกค้า รวมถึงเชิญชวนให้ลูกค้าทดลองขับรถ หลังจากนั้นเมื่อถึงกำหนดนำรถเข้ารับบริการเช็กระยะ เจ้าหน้าที่ลูกค้าสัมพันธ์ (CRO) จะทำการโทรนัดหมายกับลูกค้า จากนั้น ที่ปรึกษางานบริการ (SA) จะเป็นผู้มาต้อนรับ พร้อมกับรับฟังความต้องการของลูกค้าและให้คำแนะนำ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาอย่างถูกต้องเหมาะสม ตรงตามความต้องการของลูกค้า
จากนั้น เมื่อต้องตรวจเช็คตัวรถ จะมีการประสานงานกับช่างเทคนิคเช็กระยะ (PM Technician) หรือช่างเทคนิควิเคราะห์ปัญหา (Diagnostic Technician) ในศูนย์บริการ รวมถึงเจ้าหน้าที่อะไหล่ (Parts Officer) เพื่อจัดเตรียมอะไหล่ให้พร้อมสำหรับการซ่อมบำรุงรถยนต์ให้ได้คุณภาพภายในเวลาที่เหมาะสมตามที่ได้ตกลงไว้กับลูกค้า กรณีที่ตัวรถได้รับความเสียหายจากการเฉี่ยวชน จะมีที่ปรึกษางานบริการศูนย์ซ่อมสีและตัวถัง (SA-BP) ช่วยวิเคราะห์และให้คำแนะนำได้อย่างถูกต้องตามมาตรฐาน และสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าในคุณภาพการซ่อมสี และตัวถังอย่างดีที่สุด
ก่อนหน้านี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้จัดการแข่งขันรอบคัดเลือกรวมทั้งหมด 3 รอบ โดยในรอบแรกได้เฟ้นหาเจ้าหน้าที่ทั้ง 7 สายงาน จากผู้จำหน่ายทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 3,051 คน เข้าสู่การทดสอบเพื่อผ่านเข้าสู่รอบสอง 325 คน ตามด้วยการคัดเลือกเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ เพียง 65 คน ซึ่งผู้เข้าแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ ณ สถาบันการศึกษาและฝึกอบรมของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ถือว่าเป็นบุคลากรที่มีความสามารถสูงสุด ที่มาเข้าแข่งขันภายใต้สถานการณ์จำลองที่กำหนดขึ้น โดยมุ่งสร้างความประทับใจสูงสุดให้กับลูกค้า ด้วยการรับฟังความคิดเห็นของลูกค้า วิเคราะห์ปัญหา ช่วยคิดหาแนวทางแก้ไข และให้บริการด้วยความใส่ใจ ในทุกขั้นตอนของการขาย และหลังการขาย
ผู้ชนะเลิศ รางวัลที่ปรึกษาการขาย นายศราวุฒิ รินทร จากบริษัท มิตซูรุ่งเจริญ จำกัด (สำนักงานใหญ่) ให้ความเห็นว่า “ความมุ่งมั่น ความตั้งใจ และความพยายามอย่างไม่ย่อท้อ นำมาสู่ความภาคภูมิใจในรางวัลแห่งชัยชนะครั้งนี้ แม้ว่าตัวผมจะมีอายุงานเพียง 1 ปีเศษ แต่ผมเชื่อมั่นในแบรนด์รถยนต์มิตซูบิชิ และค้นหาข้อมูลเพื่อนำเสนอลูกค้าอย่างใส่ใจ รวมไปถึงสะสมความรู้เกี่ยวกับข้อมูลตัวสินค้า และให้คำแนะนำลูกค้าโดยคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ลูกค้าเชื่อมั่น และเป็นปัจจัยความสำเร็จที่ทำให้ผมได้รับชัยชนะในวันนี้ ผมขอขอบคุณ บริษัท มิตซูรุ่งเจริญ และมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ที่ให้โอกาสในการพัฒนาความรู้ ทักษะความสามารถ และศักยภาพของผู้เข้าแข่งขันทุกคนให้บรรลุเป้าหมายในสายอาชีพ อีกทั้งเป็นการปลดล็อคความกล้าในตัวเองไปอีกขั้นครับ”
ทางด้าน นางสาวภคพร จำปา ที่ปรึกษางานบริการ บริษัท มิตซูออโต้ ซิตี้ จำกัด ผู้ชนะเลิศ รางวัลที่ปรึกษางานบริการ บอกเล่าถึงความรู้สึกในการเข้าแข่งขันครั้งนี้ว่า “ดิฉันรู้สึกดีใจและตื่นเต้นมาก ๆ เพราะเป็นครั้งแรกที่เข้าร่วมการแข่งขัน โดยก่อนที่จะมาแข่งขันได้ทำการฝึกซ้อมทุกวัน การเข้าร่วมแข่งขันในครั้งนี้ทำให้ได้รับความรู้และประสบการณ์ที่สามารถนำกลับไปพัฒนางานได้ เช่น ทำให้เรามีความละเอียดขึ้นในการตรวจรถและสังเกตอาการของรถเบื้องต้น อาทิ รอยรั่วซึม เราสามารถอธิบายให้ลูกค้าฟังได้ว่าถ้าไม่ได้รับการแก้ไขจะมีผลตามมาอย่างไร ทำให้ได้รับความเชื่อถือไว้วางใจจากลูกค้ามากขึ้นในฐานะมืออาชีพที่รู้จริง ซึ่งดิฉันมีเคล็ดลับในการทำงานคือ ต้อนรับลูกค้าเป็นอย่างดี ทำให้ลูกค้าให้มีความสุข และมีความประทับใจกลับไป รวมถึงการรับฟังเสียงของลูกค้า สังเกตสีหน้าของลูกค้าว่ารู้สึกอย่างไร และพยายามตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด เช่น ปัญหาที่ลูกค้าแจ้งมาทุกข้อ ต้องได้รับการแก้ไขอย่างครบถ้วน”
ขณะเดียวกัน ผู้ชนะเลิศ รางวัลช่างเทคนิควิเคราะห์ปัญหา นายตะวัน ใหม่คามิ จากบริษัท มิตซูนานามหาสารคาม จำกัด (สำนักงานใหญ่) กล่าวถึงประสบการณ์ที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันทักษะรถยนต์มิตซูบิชิ ครั้งที่ 23 ว่า “ผมได้รับความประทับใจในหลายๆ ด้านจากการแข่งขันในครั้งนี้ ผมได้ฝึกซ้อมและนำเอาความรู้จากการฝึกอบรมที่อาจารย์สอน นำมาปฏิบัติจนได้รับรางวัลในวันนี้ โดยในการปฏิบัติงาน ถ้าลูกค้าแจ้งปัญหาเข้ามา เราจะทำการยืนยัน-สอบถามปัญหาตามขั้นตอนที่ได้ฝึกมา จากนั้นนำมาวางแผนและวิเคราะห์ปัญหาเพื่อจะได้ซ่อมบำรุงได้อย่างถูกขั้นตอน ผมทำงานกับมิตซู นานา มากว่า 13 ปีแล้ว รู้สึกภาคภูมิใจกับรางวัลที่ได้รับในวันนี้มาก และจะนำความรู้ที่ได้ในวันนี้ไปสานต่อ แนะนำน้อง ๆ ให้ตั้งใจพัฒนา และผมจะเป็นกำลังใจให้น้องรุ่นต่อๆ ไป”
นอกจากการแข่งขันภายในประเทศ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ณ ประเทศญี่ปุ่น ยังจัดการแข่งขันทักษะการบริการระดับโลก “Global Service Skills Contest 2024” เพื่อเฟ้นหาสุดยอดที่ปรึกษางานบริการและช่างเทคนิค โดยล่าสุด ตัวแทนจากมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย นายจิรศักดิ์ ศิริพงษ์ จาก บริษัท คำวาลุย ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับสอง ในการแข่งขันประเภทช่างเทคนิควิเคราะห์ปัญหา และนายวรเชษฐ์ สาโรจน์ จากบริษัท มิตซูออโต้ ซิตี้ จำกัด ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับสอง ในการแข่งขันประเภทที่ปรึกษางานบริการ โดยก่อนหน้านี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้ประสบความสำเร็จจากการส่งตัวแทนจากประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขัน โดยทำผลงานสูงสุดด้วยการคว้ารางวัลชนะเลิศที่ปรึกษางานบริการมาได้ในปี 2559 และรางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่งช่างเทคนิควิเคราะห์ปัญหาในปี 2562 อีกด้วย